Wednesday, August 24, 2011

7 เคล็ดลับ เพิ่มความหวานให้กับความรักของคุณ (7 ways to Take care of your love)

7 วิธีเพิ่มความหวานให้กับความรักของคุณ
(7 ways to Take care of your love)


มีคนเคยบอกว่าการมีความรักนั้นไม่ยาก แต่จะรักษาความรักนั้นให้คงอยู่กับเราได้ยาวนานนั้น ช่างยากเหลือเกิน และในเมื่อความรักคือพลังสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ใครมีความรักอยู่ หาวิธีรักษาความรักนั้นไว้เถอะ ไม่ต้องฟอร์ม ไม่ต้องหยิ่งอะไรกันนัก แค่คิดอยากทำอะไรให้ใคร จงก็ทำไปอย่างดีที่สุด เท่านี้ความรักก็อยู่ในใจได้ตลอดแล้วค่ะ

บาร์ บาร่า เดอ แองเจอลิส ผู้เขียน Are you the one for me? บอกว่า ความสัมพันธ์ที่แสนวิเศษไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะคุณมีความรัก แต่คุณจะต้องทุ่มเทเพื่อให้มันวิเศษอย่างนั้นตลอดไป อย่ารอจนถึงโอกาสพิเศษถึงจะแสดงออกซึ่งความรักของคุณ แต่บำรุงเลี้ยงชีวิตรักของคุณอย่างสม่ำเสมอในทุกวันด้วยวิธีการต่อไปนี้

1. ให้เวลา เพิ่มความหวาน
ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด เป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตสำหรับคู่รัก มากกว่างาน เงินทอง ชื่อเสียง การให้เวลาเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคนรัก ควรจะถูกจัดให้อยู่ในชีวิตประจำวัน และเป็นกิจกรรมในแต่ละวันของคุณ เพื่อให้คุณได้มีอารมณ์หวานซึ้ง ผ่อนคลาย และสบายๆไปกับมันด้วย จำเป็นมากเลยที่คุณต้องคอยหาเวลาเล็กๆน้อยๆ กับคนรักทุกวันเสมอ

หาหนทางที่จะใช้เวลาด้วยกันทุกวัน กินอาหารเย็นด้วยกัน ดื่มกันตอนค่ำ เดินเล่นกัน ประเด็นก็คือ ใช้เวลาด้วยกันทุกวัน พูดคุยหรือแม้แต่อยู่ด้วยกันเงียบๆ มันจะยิ่งสร้างความใกล้ชิดสนิทแน่นระหว่างกัน

2. อย่าอายที่จะบอกคำว่า "รัก"
7 วิธีเพิ่มความหวานให้กับความรักของคุณ (7 ways to Take care of your love)คู่รักหลายๆคู่มักไม่เคยเอ่ยคำว่า "รัก" ออกจากปาก เพื่อให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หลายคนคิดว่าแค่การกระทำ ก็น่าจะเพียงพอให้ได้รู้แล้วว่ารักไม่เห็นต้องบอก หรืออาจมีความเขินอาย ไม่ชิน ไม่กล้ากับการบอกรัก ทั้งๆที่ความรู้สึกรักนั้นมีอยู่มากมาย จำไว้เถอะค่ะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ต่างต้องการได้ยินคำว่ารักจากคู่รักของตัวเองทั้งนั้น เชื่อเถอะค่ะคำว่า "รัก" นั้นสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้กับคู่รักอย่างแน่นอน

อย่าลืมบอก "รัก" กันอย่างน้อยวันละครั้ง เพราะคู่รักของคุณ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชาย หรือฝ่ายหญิง ก็ล้วนอยากได้ยินคำนี้นะค่ะ

3. รำลึกบรรยากาศ สานสัมพันธ์
บางทีการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันนานๆ มักทำให้เราลืมความรู้สึกที่ทำให้หัวใจเราเต้นตูมตามได้ ลองคิดย้อนกลับไปหาบรรยากาศเก่าๆ นึกถึงสิ่งที่คนรักของเราชอบ แต่ไม่ได้ทำมานานแล้ว โดยพยายามฟื้นฟูมนต์ขลังของความรักให้กลับมา ซึ่งเราอาจจะลืมว่าเราชอบบางอย่างมากขนาดไหน เมื่อเราไม่สนใจมันมากอีกต่อไป จงเอาบรรยากาศนั้นกลับคืนมานะค่ะ จะทำให้ความรักของคุณหวานชื่นขึ้นแน่นอน

4. สร้างความคิด พิชิตความห่าง
ถ้าเรากำลังมีความคิดถึงความสัมพันธ์กับคนที่เราจะอยู่ด้วยตลอดไป นั่นก็นับว่าเรากำลังไปได้สวยในระดับหนึ่ง ที่จะทำให้ความรักของเราไม่เสื่อมคลายลงไปได้ จำความรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่ได้เจอคนรักของคุณไว้เสมอ นึกเลยว่านานแค่ไหนที่ใช้เวลาหมดไปกับการแต่งตัวให้ดูดีในสายตาเขา และปฎิบัติกับเขาเหมือกับคนรักที่แสนจะพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง

5. อย่าหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ จนทำให้รักร้าว
อย่าหงุดหงิดไปกับเรื่องเล็กๆ คุณจะปล่อยให้นิสัยไม่ดีของเขารบกวนคุณให้วอกแวก หรือจะยอมรับมันและหาทางเลี่ยงมันและแก้ไขมันซะ ตัวอย่างเช่น ถ้าเขาชอบเปิดฝาหลอดยาสีฟันทิ้งไว้ ก็ซื้อแยกกันคนละหลอด หรือเขาชอบทิ้งเสื้อผ้าเกลื่อนเหรอ เก็บมันซะ หรือไม่ก็ไม่ใส่ใจมัน มองข้ามมันไปบ้าง ...รู้จักมองข้าม และเรียนรู้ที่จะให้ความสำคัญ กับเรื่องของกันและกันค่ะ

6. โกรธได้แต่รู้จักให้อภัย
หากคุณมีเหตุอันระงับอารมณ์ไม่อยู่ด้วยปัญหาระหว่างคู่รัก จงตั้งสติและหายใจลึกๆ เวลาคุณโกรธ อย่าพยายามพูดกันเวลาที่อารมณ์ไม่ดี หลบกันไปสักพักเพื่อจะได้ตั้งสติ คุณจะได้พูดคุยกันได้ว่า อะไรรบกวนจิตใจคุณ แทนการชี้หน้าด่าว่ากันที่จะทำให้เสียใจในภายหลัง

อย่าใช้จุดอ่อนของเขาหรือเธอโจมตีกันเด็ดขาด! เพราะจะทำให้สิ่งที่อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่สลักสำคัญในสายตาคุณ อาจจะเป็นเรื่องซีเรียส เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา เรียนรู้ว่าเรื่องอะไรสำคัญสำหรับเขาหรือเธอ และอย่าเอาปัญหาภายในครอบครัวไปพูดกับเพื่อน พ่อแม่ หรือใครเด็ดขาด และอย่าได้เอามันมาโจมตีเขาในภายหลังด้วย

7. ประดิษฐ์อุปกรณ์ ย้อนหารัก
เราสามารถคิดสร้างสรรค์ หาอุปกรณ์รอบตัวมาเพิ่มความรักให้กันได้ ลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ สร้างความลึกลับ และปลุกความอยากรู้อยากเห็นของคนรักของคุณ กับสิ่งที่คุณกำลังเตรียมไว้ให้เขา อุปกรณ์เหล่านี้สามารถสร้างบรรยากาศได้ดี เช่น ลุกขึ้นขุดรูปถ่ายคู่ของคุณกับเขา สมัยเดทกันแรกๆ นำไปอัดใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะ ให้เป็นสิ่งแรกที่เขาจะกลับมาเห็น ทำให้รำลึกถึงความรักระหว่างเราเมื่อแรกเริ่ม ก็สามารถเพิ่มเติมความหวานให้กับความรักของคุณได้ค่ะ


Saturday, August 13, 2011

เคล็ดลับการเลือกชุดเจ้าบ่าว ให้เหมาะกับรูปร่าง

ใครคิดว่าเป็นเจ้าบ่าวแล้ว จะไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเลือกหาชุดแต่งงานเหมือนกับเจ้าสาวกันค่ะ

เนื่องจากเจ้าบ่าวแต่ละคน ต่างมีรูปร่างแตกต่างกันไป ไม่ได้มีรูปร่างเป็นนายแบบกันทุกคน การเลือกชุดเจ้าบ่าวให้เหมาะกับรูปร่าง จึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การเลือกชุดเจ้าสาวเลยค่ะ ว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังมองหาชุดสำหรับวันสำคัญของคุณ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกชุดเจ้าบ่าวแบบไหนดี ที่จะใส่ออกมาแล้วทำให้คุณดูหล่อ เท่ห์ เหมาะสมกับเจ้าสาวแสนสวยของคุณ เรามีเคล็ดลับในการเลือกชุดเจ้าบ่าวให้เหมาะกับ "ขนาดของรูปร่าง" ของคุณมาแนะนำกันค่ะ




เคล็ดลับในการเลือกชุดแต่งงาน ให้เหมาะกับรูปร่างเจ้าบ่าว
(Guide to Groom Wedding Suits & Tuxedo)


การเลือกชุดแต่งงาน สำหรับเจ้าบ่าวที่มีรูปร่าง สูงและผอม :

ขอแสดงความยินดีด้วย คุณสามารถที่จะใส่อะไรก็ได้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่สูทแบบร่วมสมัย เช่น สูทแถวเดียว กระดุมสี่เม็ด หรือสูทกระดุมสองแถวที่มีไหว่กว้างๆ แล้วแต่คุณชอบ ถ้าคุณผอมมาก และอยากดูมีเนื้อมีหนังซักหน่อยก็ให้เลือกสูทแบบหลัง ที่จะสามารถใส่ฟองน้ำไว้รองที่ช่วงไหล่ และหน้าอกได้เล็กน้อย เพื่อให้ลำตัวของคุณดูหนาขึ้น แต่มีข้อควรระวัง! อย่างเดียวคือ อย่าให้แขนเสื้อและขากางเกงสั้นเต่อจนเกินไป มันจะดูผิดพลาดอย่างรุนแรง

การเลือกชุดแต่งงาน สำหรับเจ้าบ่าวที่มีรูปร่าง สูงและมีกล้ามเนื้อ (ล่ำ) :

เลือกแบบที่ดูเรียบ สะอาด และไม่มีการตกแต่งที่่รุงรังมากนัก ปกทรงกล้วยหอม (Shawl Collar) จะทำให้คุณดูหนาน้อยลง หลีกเลี่ยงถ้าคุณเป็นคนเอวหนา ลองเลือกใส่เสื้อกั๊กตัวในแทนการการใส่ผ้าคาดเอว (สำหรับทักซิโด้) เนื่องจากผ้าคาดเอวจะดึงความสนใจมาที่บริเวณเอวคุณมากขึ้น ในขณะที่เื้สื้อกั๊กพรางเอวของคุณไว้ สีของเสื้อแนะนำให้เป็นสีดำจะดีที่สุด

หลีกเลี่ยง สูทแบบกระดุมสองแถว (Double-Breasted Jacket) และเสื้อเชิ้ตแบบจับพลีตที่จะยิ่งเพิ่มความหนาของคุณ และ ไม่ควรสวมสูทสีอ่อนๆ ให้ระวังเรื่องไซด์เสื้อผ้าให้ดี โดยเฉพาะบริเวณคออย่าให้รัดแน่นเกินไป คุณคงไม่อยากให้ดูเหมือนเน็กไท หรือหูกระต่ายกำลังรัดคอคุณแน่นจนหายใจไม่ออกนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าสยามวีว่าดอทคอมไม่เตือน

การเลือกชุดแต่งงาน สำหรับเจ้าบ่าวที่มีรูปร่าง เตี้ยและผอม :

เลือกสวมเสื้อผ้าที่มีขนาดพอดีตัว ให้เลือกแบบสูทที่มีกระดุมสองหรือสามเม็ด โดยให้จังหวะของกระดุมอยู่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งจะช่วยทำให้ลำตัวคุณดูยาวขึ้น ใส่กับกางเกงสไตล์คลาสสิก หรือแบบที่มีจีบด้านหน้า ถ้าคุณอยากให้ดูมีไหล่กว้างขึ้น ขอให้ช่างตัดเสื้อหนุนไหล่ให้เป็นพิเศษ

หลีกเลี่ยง สูทแบบกระดุมสองแถวซึ่งมีสไตล์ที่ใหญ่เกินไปสำหรับรูปร่างคุณ การใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพราะมันจะทำให้คุณดูตัวใหญ่ขึ้น แต่ก็จะยิ่งเน้นความผอมของคุณยิ่งขึ้นไปอีก

การเลือกชุดแต่งงาน สำหรับเจ้าบ่าวที่มีรูปร่าง เตี้ยและหนา :

เลือกสูทแบบกระดุมแถวเดียวเอาไว้ โดยให้ช่วงกระดุมอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ปกเสื้อแนะนำให้ใช้ปกทรงกล้วยหอมที่จะช่วยทำให้คุณดูเพรียวผอมลงได้ รวมทั้งพยายามเลือกสูทที่ไม่เสริมช่วงไหล่มากเกินไป และสีที่เหมาะที่สุดก็คือสีดำ ซึ่งเป็นสีที่จะอำพรางให้คุณดูรูปร่างผอมลงได้ เวลาลองชุดก็พยายามให้ชุดพอดีตัว และสวมใส่สบายที่สุด การติดกระดุมสูทก็ควรให้เนื้อผ้าช่วงนั้นเรียบไม่ดึงรั้งจนเสียรูป

หลีกเลี่ยง ในกรณีที่เอวคุณใหญ่ และคุณเลือกที่จะใส่ทักซิโด้ ให้หลีกเลี่ยงการสวมผ้าคาดเอว แต่ให้เปลี่ยนเป็นสวมเสื้อกั๊กแทนจะดีกว่า เพราะผ้าคาดเอวจะดึงความสนใจมาที่เอว

เมื่อเจ้าบ่าวได้ชุดสูทที่เหมาะสมแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องรองเท้าด้วยนะคะ เพราะรองเท้าก็เปรียบกับเครื่องประดับ ของชุดเจ้าบ่าวที่จะช่วยเสริมให้ชุดสูทดูสมบูรณ์แบบขึ้นได้ รองเท้าแบบผูกเชือกนั้นยังคงมาแรง เพราะเข้ากับสูททุกแบบทุกกาลเทศะ และถ้าหากสวมรองเท้าแบบผูกเชือกกับสูททันสมัย ก็จุดูเป็นเจ้าบ่าวที่ดูอินเทรนด์ขึ้นมาทีเดียว


สำหรับการเลือกสีของรองเท้า
ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับสีของชุดสูท รองเท้าสีดีดูดีกับสูทสีเทาและสีดำ ส่วนอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับงานที่ไม่เป็นทางการก็คือ รองเท้าบู๊ทหุ้มข้อ แต่ถ้าคุณเลือกที่จะสวมรองเท้าทรงนี้ละก็ ควรจะเลือกสูทที่ทันสมัยด้วยเช่นกัน

เวลาเลือกซื้อรองเท้า ควรเลือกขณะสวมถุงเท้าคู่เดียวกับที่จะใส่ในวันงาน เพราะถุงเท้ามีความหนาบางไม่เท่ากัน อาจทำให้ ได้รองเท้าที่สวมไม่กระชับพอดี ส่งผลให้คุณรู้สึกไม่สบายเท้า หากต้องเดินรับแขกตลอดเวลา

ได้เคล็ดลับดีๆ ไปแล้วก็ลองนำไป พิจารณาเลือกสูท สำหรับวันพิเศษดูนะคะ เชื่อว่าบรรดาแขกเหรื่อที่มาในงาน คงกล่าวชมเจ้าบ่าวคนนี้อย่างไม่ขาดปากเลยทีเดียวค่ะ


credit: http://www.siamviva.com

Wednesday, August 10, 2011

วิธีการเลือกชุดแต่งงาน สำหรับสาวเจ้าเนื้อ, เจ้าสาวที่มีรูปร่างอวบ, หรือเจ้าสาวที่มีรูปร่างอ้วน

สาวๆที่มีรูปร่างอวบ อ้วน หรือสาว Plus size เมื่อวันสำคัญอย่างวันแต่งงานกำลังจะมาถึง มักเกิดความกังวลใจในการเลือกชุดแต่งงาน และมักไม่แน่ใจว่าชุดแบบไหนที่จะเหมาะสมกับรูปร่างของคุณ

หลายคนพยายามลดน้ำหนักลงมามากๆ เพื่อหวังให้คุณดูผอมเพรียว สวย สง่า มากที่สุดในชุดแต่งงานที่ตัดเย็บขึ้นมาเพื่อสาวผอมบาง ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ร่างกายสามารถน้ำหนักลดลงได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งยาลดน้ำหนักแล้วหล่ะก็ คุณไม่ต้องกังวลใจเลยค่ะ แต่ถ้าคุณต้องลดน้ำหนักด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง นอกจากคุณจะอ้วนขึ้นกว่าเดิมมาก หลังจากที่คุณผอมเพียงชั่วคราวแล้ว คุณยังอาจจะเป็นคนที่สุขภาพกาย และสุขภาพจิตแย่ตามมาด้วย ซึ่งมีผลร้ายตามมาอีกมากมาย

ก่อนอื่นเจ้าสาวมือใหม่ควรมาเตรียมความพร้อมก่อนค่ะ

• สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง : สิ่งแรกที่สาวเจ้าเนื้อต้องทำคือ ต้องสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่เราเป็น ถ้าครอบครัวของคุณเป็นคนที่รูปร่างอวบอยู่แล้ว ให้คุณลดน้ำหนักยังไง ก็จะดูไม่ผอมเหมือนคนที่ผอมมาแต่กำเนิดค่ะ และคุณมั่นใจได้เลยว่าเจ้าบ่าวของคุณ ชอบที่คุณรูปร่างเจ้าเนื้อแบบนี้ ซึ่งข้อดีของคุณคือ คุณเป็นคนที่กอดแล้วให้ความรู้สึกที่อบอุ่นที่สุด และที่สำคัญคุณสามารถดูดีในแบบของคุณได้ค่ะ

• ดูแลตัวเองอยู่เสมอ : เมื่อคุณมีความมั่นใจในตัวเองแล้ว นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะทานอะไรก็ได้ตามใจ หรือปล่อยตัวให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากเกินไป โดยที่ไม่ดูแลรูปร่างของคุณเองเลยนะค่ะ คุณต้องรักษาระดับของน้ำหนักให้คงที่ โดยไม่ให้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก เพราะอาจจะมีปัญหากับชุดแต่งงานที่เลือกเอาไว้ค่ะ ควบคุมอาหารที่จะรับประทานเข้าไป ควรลดแป้ง น้ำตาล ไขมัน และหมั่นออกกำลังกาย เพื่อร่างกายที่แข็งแรง เตรียมพร้อมร่างกายเพื่อเข้าสู่ประตูวิวาห์

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

วิธีการเลือกชุดแต่งงานสำหรับ เจ้าสาวที่มีรูปร่าง อวบ อ้วน
หลังจากที่เตรียมความพร้อมแล้ว เราก็มาดูวิธีการเลือกชุดแต่งงานสำหรับสาวเจ้าเนื้อ เจ้าสาวที่มีรูปร่างอวบ หรือเจ้าสาวที่มีรูปร่างอ้วน เพื่อดึงจุดเด่นในตัวคุณออกมากันค่ะ

• สีของ ชุดแต่งงานของเจ้าสาวอวบอ้วน:
เจ้า สาวควรหลีกเลี่ยงชุดเจ้าสาวที่มีสีขาวสว่างจ้า ให้เลือกโทนสีนวล สีครีม สีงาช้างเข้ม ไปจนถึงสีโอลด์โรสแทน เพราะสีที่ยิ่งขาวหรือสว่างจะทำให้คุณยิ่งดูอ้วนมากขึ้น

• การตัดเย็บ ชุดแต่งงานของเจ้าสาวอวบอ้วน:
เจ้า สาวควรหลีกเลี่ยงการใส่ชุดที่เข้ารูปเกินไป เลือกแบบที่ทิ้งตัวลงมาพอหลวมๆ ไม่รัดรูป หรือเน้นสัดส่วน การตัดต่อชุดส่วนบน ต้องให้ช่วงตัว ช่วงอก และช่วงเอวได้ขนาดพอดีตัว และควรให้ช่างใส่โครงชุด เพื่อช่วยเสริมสร้างรูปร่างด้วย

• แขนเสื้อหรือเสื้อคลุม ชุดแต่งงานของเจ้าสาวอวบอ้วน:
สำหรับ เจ้าสาวที่มีไหล่หรือต้นแขนที่ใหญ่ และอาจจะมีเซลลูไลส์ที่เจ้าสาวไม่อยากโชว์ สามารถเลือกชุดที่มีแขนเพื่อพลางต้นแขนได้ค่ะ โดยความยาวของแขนเสื้อควรเป็นแบบ 3 ส่วน หรือ 4 ส่วน เพราะถ้ายาวถึงข้อมือจะทำให้เจ้าสาวดูตัน หรือจะใช้เป็นแบบเสื้อคลุมแขนในตัว Overlay jacket หรือ Bride jacket ก็ได้เช่นกัน เนื้อผ้าของแขนเสื้อควรเป็นแบบโปร่งและมีลวดลาย เช่นผ้าลูกไม้โปร่ง เป็นต้น เพื่อให้ลายเหล่านั้น ดึงดูดความสนใจมากกว่าขนาดของต้นแขนของจ้าสาวค่ะ สำหรับสาวเจ้าเนื้อคนไหนมีรูปร่างของช่วงบนมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ก็สามารถใส่ได้เลย โดยดูหลักเกณฑ์ข้ออื่นๆประกอบนะค่ะ

• แบบคอเสื้อ ชุดแต่งงานของเจ้าสาวอวบอ้วน:
สาว เจ้าเนื้ออย่างเรา ควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อคอปิดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้คุณดูตันและดูอวบขึ้นมาก ควรเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบคอเปิดกว้าง โดยเฉพาะคอกว้างรูปสามเหลี่ยม หรือคอที่มีรูปแบบ V-neck เพราะปลายสามเหลี่ยมจะช่วยทำให้คุณดูผอมเพรียวขึ้น และสวยสง่าเป็นอย่างมาก

• ทรงกระโปรงที่เหมาะสมสำหรับ ชุดแต่งงานของเจ้าสาวอวบอ้วน:
สำหรับ เจ้าสาวที่มีรูปร่างอ้วน ทรงกระโปรงที่เหมาะควรจะเป็นทรงเอไลน์แคบ ทรงปริ้นเซส ทรงตรง หรือเป็นกระโปรงทรงสุ่มเต็มตัว เพื่อพลางความกว้างของสะโพก

สำหรับเจ้าสาวที่รูปร่างอวบ ที่มีรูปร่างกระทัดรัดหรือเรียกได้ว่ามีความสูงไม่มากนัก ควรหลีกเลี่ยงชุดกระโปรงสั้น เพราะจะทำให้คุณดูสั้นและเตี้ยมากขึ้น ควรเลือกกระโปรงทรงยาวคลุมเท้า เพราะคุณสามารถใส่รองเท้าส้นสูงแบบต่อส้นด้านหน้า ซึ่งจะทำให้คุณสูงสง่าขึ้นได้มากทีเดียว และไม่ทำให้คุณเมื่อยมากเหมือนรองเท้าที่มีส้นสูงเฉพาะด้านหลัง อย่าลืมว่าคุณต้องยืนและเดินตลอดทั้งงาน อาจเกิดความเมื่อยล้าได้ ฉะนั้นชุดแต่งงานที่เป็นแบบกระโปรงยาวจะช่วยปิดรองเท้าของคุณ ไม่ให้ดูเหมือนว่าคุณใส่รองเท้าหนาเป็นเตารีด ซึ่งนั่นจะทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวย สง่า มาพร้อมความมั่นใจอย่างแน่นอนค่ะ

• เนื้อผ้าและลาย ชุดแต่งงานของเจ้าสาวอวบอ้วน:
ควร หลีกเลี่ยงผ้าของชุดแต่งงานที่มีเนื้อมันวาว และผ้าเนื้อหนาๆ ควรหันมาใช้ผ้าที่เนื้อนุ่ม ทิ้งตัว หรือชีฟองบางเบาแทน จะทำให้เจ้าสาวดูสบายตา ไม่อึดอัด และดูเป็นธรรมชาติ รูปแบบของชุดเจ้าสาวของคุณควรเป็นแบบเรียบหรู ถ้าคุณชอบชุดที่เป็นลายลูกไม้ แนะนำให้ใช้ลูกไม้ลายเล็กๆ ไม่ควรใช้ลายใหญ่เพราะถ้าใช้ลายใหญ่จะดูเป็นดวงโตทำให้รู้สึกกว้าง ซึ่งนั่นจะทำให้คุณดูอวบขึ้นนั่นเอง ไม่ควรประดับชุดด้วยระบายฟูฟอง หรือลูกไม้ย้อยระย้าที่เยอะไปหมดทั้งตัว เท่านี้คุณก็เป็นเจ้าสาวที่สวยสง่าสมใจในวันสำคัญของคุณค่ะ

และนี่ก็ คือหลักการง่ายๆสำหรับเจ้าสาว Plus size ที่จะเลือกชุดแต่งงานหรือชุดเจ้าสาว ให้สวยสมความตั้งใจได้แล้วค่ะ เพียงแค่เรียนรู้ทำความรู้จักกับตัวเราก่อน ว่าเรามีรูปร่างแบบไหน เหมาะกับลักษณะชุด คอเสื้อ รวมถึงวัสดุในการตบแต่งแบบไหน เมื่อเจ้าสาวรู้หลักการเลือกชุดอย่างนี้แล้ว ต่อไปก็คงต้องไปลองชุดกับทางร้าน และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับรูปร่างอย่างที่คุณต้องการ เท่านี้เจ้าสาวคนสวยก็ไม่ต้องกังวลใจ ในเรื่องชุดแต่งงานจนปวดหัวอีกต่อไป และพร้อมเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยความมั่นใจเต็มร้อยค่ะ

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

How to choose wedding dresses for chubby bride or fat bride

Wedding dresses for fat brides: the simple, elegant style based, preferably in a straight line cut, with lace design, have a curved hem, but not too much curvature in the rotator cuff area, suitable for a low-neck models, simplified visual effects, too many decorations will add to the visual effects, resulting in too cumbersome feeling. Teach fat bride bride how to choose the wedding gowns.

Modified right arm and shoulder
Worn correctly: you want to modify the fat arms and shoulders MM fonts are sure to choose a wedding, a more stiff material, colors more sedate design. That is, block the effect of fat on arms and shoulders of the meat can be modified, in addition, the design of high waist waist fat can be hidden, the proportion of elongated upper body, vertical skirt design also allows the body to highlight the stature one way or another lines.

Negative example: You can not try to Bra, halter and a short section of the wedding, the wedding will be more exposed Bra has shoulder arm defects, and Tee’s wedding will only look more and more upper body fat.

Waist fat is undoubtedly the wedding the bride goes for the choice

Clever modification of the waist
Worn correctly: Waist fat is undoubtedly the wedding dress goes for MM’s choice, a bit loose fat wedding will only make the expansion of MM seem more a sense of the body, but can not vote in particular close to the body style, the so-called liberal only material The Jianting, design simplicity, can not avoid gauze. Such as the waist in the middle of the chest and waist, this can be waist to fall below the meat can be hidden in the skirt. Choose waist or dress line wedding decorations, you can play to reduce the visual effect of obesity, because the lines will be obese at the use of elongated, so there are less obvious fat.

Negative example: you want to cover some fat on the waist of the MM are you’ll remember, the wedding waist fold design is totally unacceptable to try too much, so very easy for everyone’s eyes which in the waist, it is easier to highlight the waist fat too much.

Summary: If the waist and hips are more meat, you can choose a small hem decorated wedding, so that bright spot will focus on the upper body, especially the part above the waist, the bride will be significantly thinner.

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Wedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วนWedding dresses chubby bride fat bride - ชุดแต่งงานเจ้าสาวอวบอ้วน

Monday, August 8, 2011

งานพิธีหมั้น บี-พีระพัฒน์ และ ลีนา โดยมีฤกษ์แต่งงาน 11 พฤษจิกายนนี้ (11-11-2011)

งานพิธีหมั้น บี-พีระพัฒน์ และ ลีนา โดยมีฤกษ์แต่งงาน 11 พฤษจิกายนนี้ (11-11-2011)

(Be Peerapat & Lina engagement)


นักร้องหนุ่มเสียงดี เจ้าพ่ออาร์แอนด์บี “บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง” ศิลปินชื่อดังถือเอาฤกษ์ดี เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. 2554 เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา ซุ่มเงียบ หมั้นหวานใจ “ลีนา-ลินา ลีนุตพงษ์” ลูกสาวคนเก่งของ คุณบรมกช ลีนุตพงษ์ ทายาทยนตรกิจ หลังคบหาดูใจกันมากว่า 7 ปี



โดยงานนี้ กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ศิลปินรุ่นพี่ในวงการที่ บี-พีระพัฒน์ นับถือเหมือนพี่ชาย ได้ทำหน้าที่เป็นเถ้าแก่ฝ่ายชาย มาสู่ขอลีนา แฟนสาว ซึ่งเส้นทางของดนตรีทำให้ทั้งสองได้โคจรมาพบกัน ตั้งแต่สมัยบี-พีระพัฒน์ เป็นศิลปินอยู่สังกัดเบเกอรี่ มิวสิค ส่วนลีนาเป็นนักแต่งเพลงอยู่บริษัทโซนี่ฯ จังหวะของพรหมลิขิตเกิดขึ้น เมื่อสองค่ายเพลงมีโปรเจ็คร่วมกัน ลีนาได้แต่งเพลง ดินแดนแห่งความรัก รู้บ้างไหม และอีกหลายบทเพลงที่ยังคงโด่งดังในปัจจุบัน ให้กับทางวงเครสเซนโดและบี-พีระพัฒน์ เป็นผู้ขับร้อง งานหมั้นหมายครั้งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางสักขีพยานกว่าร้อยคนของครอบครัวทั้งสองฝ่ายที่มาร่วมงาน ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสุโขทัย


สำหรับฤกษ์แต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และสาวลีนา ลินา ลีนุตพงษ์ ถูกกำหนดไว้ในช่วงปลายปีถือฤกษ์เลขสวย วันที่ 11 เดือน 11 (พฤศจิกายน) ปี 2011


ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆนะค่ะ

Be Peerapat & Lina engagement - งานพิธีหมั้น บี พีระพัฒน์ และ ลีนาBe Peerapat & Lina engagement - งานพิธีหมั้น บี พีระพัฒน์ และ ลีนา

Be Peerapat & Lina engagement - งานพิธีหมั้น บี พีระพัฒน์ และ ลีนาBe Peerapat & Lina engagement - งานพิธีหมั้น บี พีระพัฒน์ และ ลีนา

Be Peerapat & Lina engagement - งานพิธีหมั้น บี พีระพัฒน์ และ ลีนาBe Peerapat & Lina engagement - งานพิธีหมั้น บี พีระพัฒน์ และ ลีนา

Saturday, August 6, 2011

การวางแผน งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน (Wedding On a Budget)

การวางแผน งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน (Wedding Budget guide)

แนวคิดที่ว่าอยากประหยัดตอนแต่งคงมีในหัวทุกคน - เมื่อความรักสุกงอมจนหอมหวาน อะไรก็คงจะหยุดไม่อยู่อีกต่อไป ถ้าชายหญิงสักคู่หนึ่งจะจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ และไม่ว่าจุดเริ่มต้น ของความรักจะอยู่ตรงไหนก็ตาม ทว่า จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อคุณทั้งสองตกลงที่จะแต่งงานกัน ทีนี้เรื่องที่คนทั้งคู่จะต้องพูดคุย และทำความเข้าใจกันอย่างตรงไปตรงมาก่อนการแต่งงานจะเริ่มขึ้น นั่นก็คือ การวางแผนการเงินที่ใช้ในการแต่งงาน (Wedding On a Budget)


หลักคิดในการกำหนด การวางแผน งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน
คุณและคู่รักของคุณมีงบประมาณเท่าไร ในการจัดเตรียมงานวิวาห์ครั้งนี้ ลองคำนวณคร่าวๆ ดูสิ โดยเริ่มจากการที่คู่บ่าวสาวตกลงกันก่อนว่าจะ จัดงานแต่งในลักษณะไหน รูปแบบพิธีอย่างไร? แต่ส่วนใหญ่แล้ว เพื่อความสะดวกในการรวมญาติ และประหยัดงบประมาณไปในตัว ก็มักจะใช้แบบ "ม้วนเดียวจบ" คือพิธีหมั้น รดน้ำ จัดเลี้ยง ทุกกระบวนการเสร็จสิ้นในวันเดียว เมื่อคิดถึงรูปแบบพิธีการจัดงานได้เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงองค์ประกอบหลักๆ ในการจัดงานกันบ้าง องค์ประกอบสำคัญที่จะต้องนำมาประเมินงประมาณรายจ่าย ได้แก่

1. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านโรงแรมหรือสถานที่จัดงาน

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็นประมาณ 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงานเลยก็ว่าได้ โดยมีรายละเอียดได้แก่ ค่าเช่าสถานที่จัดงานแต่งงาน ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าพนักงาน ค่า cake ค่าบริการต่างๆ ค่าอาหารว่างในงานหมั้น

สำหรับรายที่มีพิธีหมั้นในตอนเช้าแบบไทย ที่มีการยกขันหมาก อย่าลืมที่จะคิดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการยกขันหมาก ค่าซองสำหรับประตูเงิน-ประตูทอง และรวมถึงค่ารถตู้ สำหรับรับ-ส่งขบวนขันหมาก

2. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านการถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอ

มีสตูดิโอมากมายให้เลือกใช้บริการ ซึ่งทางคู่บ่าวสาวสามารถปรึกษาผู้รู้ หรือผู้ที่คร่ำหวอดในวงการนี้ได้โดยเฉพาะ และถ้าจะให้ดี ควรจะต้องขอดูผลงานที่ผ่านๆ มาของช่างภาพด้วยเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ เลือกเฟ้นผู้ที่จะบันทึกภาพสำคัญของคุณในวันสำคัญของคู่บ่าวสาว รายละเอียด คือ ค่าช่างถ่ายภาพ ช่างถ่ายวีดีโอ ทั้งในงาน Pre wedding งานหมั้น และงานเลี้ยงตอนกลางคืน คำนวณจาก ช่างภาพและช่างถ่ายวีดีโอ 1 คน รวมถึงค่าอัลบัมรูปภาพต่างๆ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็นประมาณ 12% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงาน

3. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านเครื่องแต่งกาย ชุดแต่งงานเจ้าบ่าวและเจ้าสาว

ซึ่งราคาค่าใช้จ่าย ก็ขึ้นอยู่กับความเลิศหรู คือยิ่งหรูหรามากจะยิ่งแพงมากขึ้นนั่นเอง รายละเอียดที่จะต้องคิดถึง ได้แก่ ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว สูท รองเท้า เครื่องตกแต่งประดับประดา รวมไปถึงค่าใช้จ่ายของช่างแต่งหน้า ซึ่งค่าใช้ จ่ายในส่วนนี้อาจจะหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เราไปจ้างสตูดิโอ ซึ่งจะมีบริการรวมไว้ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็น 8% ของค่า ใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงาน

4. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านบันเทิงดนตรีในงานแต่ง

รายละเอียด คือ ค่าจ้างของนักดนตรีที่แสดงในงาน อาจจะเป็นคณะดนตรีที่อยู่ในขบวนแห่ของงานหมั้น หรือนักดนตรีที่ แสงที่งานเลี้ยงแต่งงานตอนเย็น ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็น 8% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงาน

5. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านสิ่งของตกแต่งในงาน

รายละเอียด คือ ค่าจัดซุ้มถ่ายรูปในงานแต่งงาน ค่าดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งงานแต่งงาน ค่าตุ๊กตา และอื่นๆ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิด เป็น 9% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงานครับ

6. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านการ์ดเชิญ ของชำร่วย ของรับไหว้

รายละเอียด คือ การ์ดเชิญงานแต่งงาน ของชำร่วย ของรับไหว้ที่มอบให้ผู้ใหญ่ เครื่องเขียนต่างๆที่ใช้ตอนลงทะเบียน ป้ายต่างๆในงานแต่งงาน เช่น ป้ายบนเวที ป้ายติดตามโต๊ะ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็น 8% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงาน

สำหรับการ์ดแต่งงานนั้นควรเริ่มต้นเลือกสีและขนาด ของซองการ์ดก่อนเป็นอันดับแรก เพราะโดยปกติแล้วการสั่งทำการ์ดนั้น ทางร้านจะต้องบวกค่าซองไปในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าคู่บ่าวสาวเลือกที่ตัวการ์ดเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงซอง อาจต้องเสียเวลา และเสียเงินเพิ่มในการจัดพิมพ์ซองใหม่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น ก่อนสั่งพิมพ์การ์ดควรลิสต์รายชื่อแขกของบ่าวสาว และแขกของคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่าย โดยพยายามให้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุด

สิ่งที่ไม่ควรลืมอีกประการหนึ่งในการจัดพิมพ์ซองการ์ดก็คือ ให้เผื่อซองมากกว่าการ์ดประมาณ 50 ซอง เนื่องจากปกติมักจะมีความผิดพลาดในการพิมพ์ชื่อบนซองอยู่เสมอๆ เผื่อรายชื่อตกหล่น หรือเผื่อแขกที่ลืมนำซองมาในวันงาน เป็นต้น เมื่อคำนวณได้รอบคอบแล้วค่อยยืนยันจำนวนการ์ดที่ต้องการจะพิมพ์

7. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงาน : ด้านการเดินทาง

รายละเอียด คือ ค่าน้ำมันในงานหมั้นรับตัวเจ้าสาวที่บ้าน ซึ่งจะมีแขกไปร่วมงานกันหลายคน แต่ละคนก็จะขับรถไปกันเอง หรือค่าน้ำมันในการขับรถไปแจกการ์ดเชิญให้กับญาติผู้ใหญ่ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็น 2% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงาน

8. ค่งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงา : ด้านแหวนแต่งงาน

เริ่มแรกควรต้องกำหนดความต้องการ ของแหวนแต่งงานก่อนว่าจะเป็นรูปแบบไหน แหวนเพชร หรือแหวนทองคำ และควรจะกำหนดงบประมาณในการซื้อแหวน เช่นแหวนควรราคาประมาณวงละไม่เกิน 30,000 บาท เป็นต้น ซึ่งจะทำให้คุณมีหลักในการเลือกมากขึ้นและไม่เกินงบที่คุณตั้งไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็น 3% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานแต่งงาน

9. ค่งบประมาณ ค่าใช้จ่าย งานแต่งงา : ด้านจิปาถะต่างๆ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่มันก็เป็นค่าใช้จ่ายเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ค่าสมุดลงชื่ออวยพร ค่ากล่องใส่เงิน(หากต้องการเป็นแบบพิเศษ)


Wedding Tips:
......................................................................................................................................................
- พึงระวัง อย่าใช้เงินเกินงบประมาณที่กำหนดไว้ : กรณีนี้สามารถช่วยได้โดยการคำนวณยอดรายจ่ายที่จำเป็น ก่อน แล้วค่อยลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นลง เช่น อาจเปลี่ยนความโรแมนติกในการแต่งงานตอนกลางคืน มาเป็นตอนกลางวันแทน เพราะวิธีนี้ทางโรงแรมมักจะลดราคาค่าจัดงานลงเป็นพิเศษ หรือบางทีคู่สมรสอาจจะลดค่าใช้จ่าย โดยการเลือกชุดแต่งงาน ที่เรียบง่าย หรือการเช่าชุดแทนก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจ ลดค่าใช้จ่าย โดยการลดขนาดเค้กจากระดับความสูง 10 ชั้นมาเป็น 4-5 ชั้นก็จะช่วยลดราคาค่าใช้จ่ายได้ด้วยเช่นกัน

- ควรแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง จะเป็นการดีมิใช่น้อยถ้าคู่แต่งงานมีส่วนที่จะต้องร่วมกันรับผิดชอบ ครอบครัวด้วยกันทั้งสองฝ่าย มิใช่ปล่อยให้อีกฝ่ายรับภาระหนักอยู่ด้านเดียว อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออย่าทำให้แผนการ(บริหารเงิน)ที่วางเอาไว้นี้ สร้างความเครียดให้แก่คุณทั้งสอง จนเป็นเหตุให้เกิดความอึดอัด ขัดใจ ราวกับถูกกังขังโดยเด็ดขาด เพราะท้ายสุดแล้วสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ตระเตรียมไว้ล่วงหน้านี้ก็ เพื่ออนาคตอันสดใสในครอบครัวอันแสนจะอบอุ่นของคุณเจ้าบ่าวเจ้าสาว นั่นเอง
......................................................................................................................................................


credit:
http://www.weddinghitz.com
http://th-th.facebook.com

Tuesday, August 2, 2011

เริ่มต้นวางแผนงานแต่งงานอย่างไรดี?

เริ่มต้นวางแผนงานแต่งงานอย่างไรดี?
(How to plan your wedding?)


Wedding's TIPs:
.............................................................
เขียน diary ช่วงเตรียมงานแต่งงาน ซึ่งจัดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งที่น่าจดจำไว้ เนื่องจากคุณจะมีกิจกรรมที่ร่วมกันทำร่วมกันคิดร่วมกันตัดสินใจ ถ้าคุณจดมันไว้ใน diary แล้วเอามาอ่านหลังจากเสร็จงานแต่งงาน มันจะเป็นอะไรที่ช่วยทำให้คุณและคู่รักของคุณหัวใจพองโตอีกครั้ง

.............................................................


เริ่มต้นวางแผนงานแต่งงานอย่างไรดี?

1. บอกให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้ หลังจากที่คุณทั้งคู่ได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าจะจัดงานแต่งงาน คุณควรบอกให้คุณพ่อและคุณแม่ทราบก่อนเป็นอันดับแรก เล่าให้ท่านทั้งคู่รู้ถึง idea ต่างๆที่คุณได้ plan ไว้สำหรับงานแต่งงานของคุณ ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีอันหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ของเราก็จะได้ช่วย share ประสบการณ์ของท่านทั้งสองให้เราทราบด้วย ยิ่งกว่านั้น พ่อและแม่ของคุณ ยังอาจจะเป็นผู้จัดการกับการหาฤกษ์แต่งงานให้คุณทั้งสองอีกด้วย หลังจากนั้นค่อยประกาศให้เพื่อนๆ ที่สนิทได้รู้ โดยเฉพาะเพื่อนที่จะมามีส่วนสำคัญในงานแต่งงาน เช่น เพื่อนเจ้าบ่าว หรือเพื่อนเจ้าสาว

2. ทำบันทึกประจำวัน ถ้าคุณยังไม่เคยทำ ในช่วงวางแผนหรือเตรียมงานเกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณ ถ้าคุณยังไม่เคยเขียน diary ขอแนะนำให้ลองเขียน diary หรือบันทึกประจำวัน เพราะช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดีช่วงหนึ่งที่น่าจดจำไว้ เนื่องจากคุณจะมีกิจกรรมที่ร่วมกันทำร่วมกันคิดร่วมกันตัดสินใจ ถ้าคุณจดมันไว้ใน diary แล้วเอามาอ่านหลังจากเสร็จงานแต่งงาน มันจะเป็นอะไรที่ช่วยทำให้คุณและคู่รักของคุณหัวใจพองโตอีกครั้ง เพราะนั่นคือช่วงเวลาแห่งความสุขช่วงหนึ่งในชีวิตคุณนั่นเอง

3. เริ่มประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ถึงข่าวดีของคุณทั้งสอง มีหลายทางที่คุณจะบอกให้พวกเค้ารับรู้กัน ไม่มีวิธีไหนที่ดีกว่ากัน อยู่ที่คุณสะดวก เช่น

- โทรศัพท์บอก
- นัดเจอ แล้วประกาศข่าวดีให้รู้โดยพร้อมเพรียง
- ประกาศทางหน้าหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์
- Email ให้เพื่อนๆ ญาติๆ รับรู้ว่าคุณจะแต่งงาน
- สร้าง website บอกรายละเอียดงานแต่งของคุณ คุณอาจจะเล่า Progress งานแต่งของคุณผ่านทาง website ก็ได้

4. ทำ schedule หรือแผนงานต่างๆ ที่คุณต้องเตรียม เช่น เมื่อไหร่เลือกของชำร่วย เมื่อไหร่ต้องสรุปรูปแบบการ์ดแต่งงาน ต้องไปลองชุดเจ้าสาวเมื่อไหร่ การทำ schedule เป็นสิ่งสำคัญ ที่จำเป็นถึงแม้ว่ามันไม่ง่ายเลย แต่มันจะช่วยให้คุณได้รู้ว่าช่วงไหนคุณต้องทำอะไรให้เสร็จ ถ้าคุณอยากให้งานแต่งงานของคุณ perfect อย่าลืมทำ schedule หรือตารางแผนงานของคุณ

5. กำหนด theme หรือรูปแบบงานแต่งงานของคุณ กำหนดรูปแบบการแต่งงาน หรือ theme งานแต่งของคุณ ว่าคุณอยากจะให้ออกมาเป็นอย่างไรในภาพรวาม รวมถึงพิธีการต่างๆ เช่น จะเป็นพิธีจีน ไทย ผสม หรือพิธีตะวันตก ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับพิธีทางศาสนาด้วย เพราะแต่ละศาสนาจะมีพิธีเฉพาะที่แตกต่างออกไป วิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการเริ่มต้นคือ พูดคุยและปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ ลองเขียนงานแต่งงานในอุดมคติของคุณว่ามีอะไรบ้างเป็นข้อๆ จากนั้นก็มาดูแต่ละข้อว่าเป็นไปได้แค่ไหน ซึ่ง list เหล่านี้จะช่วยคุณได้ โดยจะเป็นโครงคร่าวๆ ของ Theme งานแต่งงานของคุณ

6. กำหนดงบประมาณของการจัดงานแต่งงาน แนะนำให้ใช้ ตารางตรวจสอบงบประมาณ (Budget Worksheet) คุณต้องตรวจสอบงบประมาณหรือเงินเก็บที่คุณมี คุยกับคุณพ่อคุณแม่ว่ามีส่วนไหนที่ท่านจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้บ้าง ส่วนไหนที่คุณจะรับผิดชอบเอง คู่แต่งงานบางคู่ต้องถึงกับมีการกู้เงินมาใช้สำหรับงานแต่งงาน แต่เราไม่แนะนำให้กู้เงินมาแต่งงาน ถ้าไม่จำเป็นจริง เพราะว่าโอกาสทะเลาะจะเกิดขึ้นได้หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว เพราะพวกคุณจะต้องเครียดกับการหาเงินมาใช้หนี้ คุณคงไม่อยากให้ชีวิตแต่งงานของคุณมีปัญหาตั้งแต่เริ่มแต่งงาน ในช่วงเตรียมงานแต่ง ขอแนะนำให้ใช้จ่ายโดยบัตรเครดิตจะดีกว่า เพราะว่าคุณจะได้มีโอกาสสะสมแต้มจากบัตรเครดิต เช่น ได้ไมล์สะสม แลกเป็นเงินคืนได้ หรือแลกของได้ ซึ่งรางวัลที่ได้จากแต้มสะสมคุณสามารถนำไปใช้สำหรับ honeymoon หรือได้ของที่แลกมาสำหรับใช้ในบ้าน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้จ่ายค่าบัตรเครดิตตรงเวลาด้วยนะคะ)

7. เลือกผู้ที่จะมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวช่วยงานคุณได้มากไม่ใช่ทำแต่แค่ยืนข้างหลังคุณในวันรดน้ำสังข์เท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีเพื่อนบ่าวสาวตั้งแต่ 2 – 12 คน ซึ่งจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ก่อนที่คุณจะเลือกเพื่อนมาช่วยงานว่ามีจำนวนเท่าไหร่ กี่คน คุณควรรู้ก่อนคร่าวๆว่า มีงานในส่วนไหนที่ต้องการให้เพื่อนคุณช่วยบ้าง บ่าวสาวบางคู่อยากจัดงานแต่งงานที่ใหญ่ และคิดว่าอยากมีเพื่อนๆเยอะๆ มาช่วยงานแต่ง แต่ก่อนที่คุณจะยกหูโทรศัพท์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคุณให้มาช่วยงานแต่งงาน คิดให้ดีก่อนว่าจะให้เพื่อนมาช่วยอะไร คุณคงไม่อยากเจอเพื่อนคุณมาทะเลาะ หรือมาเขม่นกันในงานแต่งของคุณ เพราะว่าคุณเรียกให้เพื่อนมามากเกินไป แต่งานที่มีให้ช่วยนั้นมีแต่นิดหน่อยเท่านั้น เพื่อนของคุณอาจจะสับสนไม่รู้ว่าใครต้องทำหน้าที่อะไร อาจเกิดการแย่งงานกันก็ได้นะคะ

8. เริ่มมองหาสถานที่จัดงาน คุณควรเริ่มหาสถานที่ที่คุณจะจัดงานแต่งตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะมีหลายที่หลายโรงแรมที่เป็นที่นิยมมีจองล่วงหน้าเป็นปี ขอให้ทราบไว้ว่าฤกษ์แต่งงานที่ดี ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงวันเดียวกันหลายๆคู่ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ book สถานที่ไว้ล่วงหน้าซึ่งจะทำให้คุณได้สถานที่แต่งงานในฝันของคุณ ถ้าคุณได้สถานที่แล้วคุณก็สามารถ Plan เรื่องอื่นๆต่อไปได้ง่าย และจะได้นำเวลาไปจัดการกับเรื่องอื่นๆ อีกหลายๆ เรื่องสำหรับงานแต่งของคุณ

9. หาข้อมูลคู่แต่งงานหลายคู่ที่จัดงานแต่งงานออกมาได้ดี แน่นอนพวกเค้าไม่ได้วางแผนงานแต่งงานกันเองเพียงแค่ 2 คน พวกเค้าหาตัวช่วย ซึ่งอาจจะมาจากการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลจากหนังสือนิตยาสาร หรือสอบถามเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์

- จ้าง wedding planner หรือบริษัทที่ให้คำปรึกษาเรื่องแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณไม่มีเวลาหรือยุ่งอยู่เสมอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคุณให้มีงานแต่งงานตามแบบในฝันคุณได้ และยังช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในบางเรื่องได้อีกด้วย

- ศึกษาข้อมูลจะ website แต่งงานคุณสามารถอ่านจากกระทู้เพื่อได้ศึกษาจากผู้มีประสบการณ์ได้ หรือว่าถ้าหากมีคำถามคุณก็สามารถ post ในกระทู้ตาม web แต่งงานได้อีก กระทู้พวกนี้ก็จะมีผู้ที่กำลังงานแผนงานแต่งเหมือนคุณ หรือคนที่มีประสบการณ์มาก่อนมาตอบคำถามให้คุณได้

- ใช้ checklist ที่เป็น worksheet ที่จะช่วยในการวางแผนงานแต่งของคุณ พวก worksheet นี้คุณหา download ฟรีได้ จาก website แต่งงานได้ทั่วๆไป

- วิธีง่ายๆอีกวิธีก็คือ ซื้อนิตยสารแต่งงานมาอ่าน ถ้าอยากประหยัดคุณก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกรายปีของนิตยสาร ทางบริษัทเค้าก็จะจัดส่งมาให้คุณที่บ้าน ลองไปเดินงานพวก wedding festival จะมีซุ้มรับสมัครหนังสือนิตยสาร ซึ่งคุณจะได้ราคาถูกกว่าปกติ จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อีกเล็กน้อย นิตยาสารแต่งงานที่เด่นๆในเมืองไทย เช่น Wedding WE และ IDO เป็นต้น


credit: http://www.siamviva.com
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...