ในต่างประเทศ เจ้าสาวจะสั่งตัดชุดแต่งงานกันเป็นปกติ เมื่อถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิตจะไม่นิยมเช่าชุดกัน และจะให้ความสำคัญในการเก็บรักษาชุดแต่งงานเป็นอย่างมาก จนถึงกับมีธุรกิจการรับซักรีด แต่ในเมืองไทยเจ้าสาวส่วนใหญ่จะเช่าชุด ไม่ได้สั่งตัดเนื่องจากราคาค่อนข้างสูงและใส่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่สำหรับเจ้าสาวอีกหลายๆคน การเก็บรักษาชุดแต่งงานไม่ให้เหลืองเก่าก็เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจะเก็บรักษาชุดแต่งงานที่ลงทุนตัดเป็นหมื่่นๆ หรือบางชุดก็เป็นแสนๆ ได้อย่างไร
• หากเจอปัญหาชุดแต่งงานเปื้อน อันดับแรกคือ การตั้งสติก่อน อันดับต่อมาให้ดูว่าชุดเจ้าสาวที่คุณใส่นั้นเป็นผ้าแบบไหน เพื่อที่จะได้เลือกใช้วิธีทำความ สะอาดให้เข้ากับเนื้อผ้า ซึ่งเรามีเคล็ด(ไม่)ลับดีๆ เกี่ยวกับการทำความสะอาดชุดเจ้าสาวมาฝากกัน ดังนี้
• หากเป็นผ้าไหมซาติน ผ้าชีฟอง และผ้าเครป ไม่ควรที่จะใช้แปรงทำความสะอาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าลุ่ยหรือเป็นขุยได้
• หากเป็นผ้าไหมไทย สามารถใช้แปรงสีฟันขนอ่อนๆถูได้ แต่ต้องเบามือที่สุด สบู่ที่ใช้ควรเลือกสีขาว เพราะถ้าเป็นสีอื่นอาจจะทำให้สีตก หรือมีคราบเปื้อน ถ้าเปื้อนคราบเล็กน้อย สามารถใช้กระดาษทิชชู่เช็ดได้ แต่ต้องเลือกที่เป็นเนื้อละเอียดที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดขุยที่ชุด
• หากชุดเปียกน้ำ ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้ง แต่ไม่ควรจ่อไดร์จนชิดรอยเปื้อน ควรให้อยู่ในระยะห่างประมาณ 1 ฟุต แล้วเป่าแบบส่ายไปส่ายมาจนผ้าแห้ง
• ถ้าเกิดรอยเปื้อนขึ้นในขณะกำลังอยู่ในงานเช่น เผลอทำลิปสติกเปื้อน ให้แก้เหตุการณ์เฉพาะหน้า ด้วยการใช้แป้งเด็กโรยบริเวณรอยเปื้อนได้อย่างเดียว ห้ามใช้น้ำเด็ดขาดเพราะรอยจะกระจายและฝังลึกในเนื้อผ้ามากขึ้น
• ถ้าเป็นชุดแต่งงานแบบสั่งตัด คุณควรส่งชุดไปให้ร้านที่ตัดดูแลให้ แต่ถ้าไม่สะดวกให้ส่งซักแห้ง แต่ควรโทรถามทางร้านก่อนว่า ชุดของคุณมีรายละเอียดต้องดูแลเป็นพิเศษอย่างไรบ้าง แล้วแจ้งรายละเอียดแก่ร้านซักแห้ง เพื่อเป็นการประกันว่าคุณจะได้ชุดแต่งงาน กลับคืนมาในสภาพไม่ต่างไปจากเดิม
• อย่าเก็บชุดในห้องเก็บของใต้บันได หรือห้องใต้หลังคาที่มีความชื้นสูง บริเวณที่ดีที่สุดที่จะใช้เก็บชุดแต่งงานคือตู้เสื้อผ้า หรือพื้นที่ใต้เตียงนอน
• หลังจากที่นำชุดไปซักแห้งเรียบร้อยแล้ว อย่าเก็บชุดแต่งงานของคุณไว้ในถุงพลาสติก เพราะสารเคมีที่อยู่ในพลาสติกจะซึมออกมาจะทำลายสีของเนื้อผ้าได้
• ถ้ามีเข็มหมุดปักอยู่ที่เนื้อผ้าให้เอาออก อย่าทิ้งเอาไว้ เพราะเข็มหมุดมีโอกาสขึ้นสนิมได้ถ้าปล่อยไว้นานๆ และยังทำให้ชุดของคุณมีรอยอีกด้วย อย่าแขวนชุดแต่งงานคุณทิ้งไว้นานเกินไป เพราะการ แขวนเป็นการตึงตะเข็บเสื้อและรูปทรงของชุด
• ไม่แนะนำให้เก็บชุดแต่งงานในกล่องที่ทำจากพลาสติกเป็นเวลานานๆ เพราะกล่องพลาสติกจะเกิดความชื้น ได้ง่าย ทำให้เกิดเชื้อราควรจัดเก็บชุดแต่งงาน ไว้ในกล่องที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเก็บชุดแต่งงานเท่านั้น แต่อย่ามักง่าย!! ไปหาตัดเอากล่องกระดาษธรรมดามาใช้เก็บชุดแต่งงานเป็นอันขาด เพราะภายในเนื้อของกล่องกระดาษจะมีส่วนผสมของกรด ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปมันจะซึมออกมาถูกเนื้อผ้า และจะทำลายสีของเนื้อผ้า
• ห่อชุดแต่งงานด้วยกระดาษที่ไม่มีกรดเป็นส่วนผสม (acid-free tissue paper) ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ชุดแต่งงานของคุณกลายเป็นสีเหลือง อย่าใช้กระดาษที่มีสีมาห่อ เพราะว่ากระดาษพวกนี้ จะผ่านการย้อมสีนานๆไปสีที่ย้อมไว้อาจจะตกออกมาโดนชุดคุณได้
• ถ้าคุณไม่เก็บชุดแต่งงานไว้ในกล่อง ระวังอย่าให้ชุดของคุณโดนแสงแดดหรือแสงไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าเสื่อมสภาพ
• อย่าเก็บชุดแต่งงานของคุณไว้ในบริเวณที่เคยมีปัญหาเรื่องความชื้น ปลวกหรือแมลง
• แกะและคลี่ชุดแต่งงานของคุณออกมาตรวจสอบบ้างอย่างน้อยปีละครั้ง (หรือทุกๆ 6 เดือนก็ยิ่งดี) ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ชุดแต่งงานคุณเกิดรอยพับถาวรได้ และยังทำให้คุณได้หวนนึกถึงความทรงจำที่แสนหวาน และน่าประทับใจในวันแต่งงานคุณอีกด้วย
Credit: http://wedding.tlcthai.com/