Showing posts with label เจ้าบ่าว. Show all posts
Showing posts with label เจ้าบ่าว. Show all posts

Thursday, March 8, 2012

ชวนเจ้าบ่าวมารู้เรื่อง เครื่องแต่งกาย ชุดสูทสากล ทักซิโด้ (Groom Tuxedos - Groom Suits - Groom Attire for Wedding)

ชวนเจ้าบ่าวมารู้เรื่อง เครื่องแต่งกาย ชุดสูทสากล ทักซิโด้ สักนิด!!
เพื่อที่คุณจะได้ดูเท่ห์และสง่างามที่สุดในวันแต่งงาน


(Groom Tuxedos - Groom Suits - Groom Attire for Wedding)

วันแต่งงาน เป็นวันที่พิเศษสุดในชีวิตสำหรับคู่บ่าวสาว โดยปกติเจ้าสาวจะดูแลเรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้า หน้า ผม อย่างพิเศษสุดอยู่แล้ว ส่วนทางเจ้าบ่าวก็ไม่ควรละเลยในเรื่องของเสื้อผ้าอาภรณ์เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองแต่งตัวเชย ๆ แล้วให้เจ้าสาวสวยหรูอยู่คนเดียว จงจำไว้ว่า เจ้าบ่าวคือพระเอกคนเดียวของค่ำคืนนี้เช่นกัน ฉะนั้นเจ้าบ่าวก็ควรที่จะเลือกชุดให้ดูหล่อ เท่ห์ สง่างาม ที่สุดในชีวิต เพื่อเวลาที่คุณควงแขนเจ้าสาวแสนสวยอยู่ในงาน คุณจะได้ดูเท่ห์และสง่างามสมเป็นคู่บ่าวสาวที่โดดเด่นกว่าใครในงานค่ะ

แต่ก่อนที่คุณจะเลือกชุดเจ้าบ่าวในแบบหรือสไตล์ที่คุณชอบหรือเหมาะกับคุณ จำไว้เลยว่าการมีความรู้เรื่องสูทก็ช่วยให้คุณมีชัยไปกว่าครึ่ง เราจึงนำความรู้เรื่อง ชุดเจ้าบ่าว สูทเจ้าบ่าว ทักซิโด้ มาฝากกันในวันนี้ค่ะ ซึ่งในเวลาพิธีการแบบนี้ ชุดสูทจะเป็นชุดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากดูเป็นสากลและดูเท่ห์ในแบบฉบับหนุ่มมาดแมนแล้ว สูทที่ตัดเย็บดี ๆ ยังช่วยเสริมบุคลิก และอำพรางจุดบกพร่องสร้างความมั่นใจขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว

สำหรับ "ชุดสูทสากล" ที่นิยมกันโดยทั่วไปจะมี 3 สไตล์หลัก ๆ คือ


1. สูทกระดุม 2 เม็ด แถวเดียว

ชุดสูทชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ชอบใส่ออกงานบ่อยที่สุด ด้วยเสน่ห์ชุดสูทที่ไม่เหมือนใคร คือเป็นปกยาวโค้งลงมาจากคอใช้กระดุมสองเม็ดแถวเดียว คอเสื้อที่ยาวลงมาเป็นรูปตัววี เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตด้านในมากกว่าสูทแบบอื่น ทำให้คนสวมดูสูงเพรียวด้วย

สูทกระดุมสองเม็ดแถวเดียวนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างอ้วนมากควรที่จะเลือกสวมชุดนี้ เพราะถ้าสวมเสื้อกั๊กตัวในที่เข้ารูปจะช่วยปกปิดช่วงหน้าท้องได้ ทำให้ดูผอมลง และเหมาะสำหรับเจ้าบ่าวร่างเล็กและมีส่วนสูงกะทัดรัด เพราะทำให้รูปร่างดูสูงขึ้น

2. สูทกระดุม 3 เม็ด แถวเดียว

ชุดสูทนี้เป็นชุดที่ผู้ชายไทยนิยมกันมากที่สุด เพราะถือเป็นแบบที่ทันสมัย ทำให้ดูมีช่วงตัวที่ยาวขึ้นเหมาะสำหรับเจ้าบ่าวที่มีรูปร่างสันทัด นักออกแบบส่วนมากออกแบบมาให้กลัดเฉพาะสองเม็ดบน แม้จะมีบางคนชอบชนิดกลัดกระดุมสามเม็ดที่ดูคลาสสิกกว่า ชุดสูทกระดุมสามเม็ดแถวเดียวนี้มักใช้ใส่ในพิธีงานช่วงกลางวัน และควรเลือกสูทสีเข้มเข้าไว้จะดีกว่าสูทชุดนี้เหมาะสำหรับคนรูปร่างเล็ก ถ้าสวมใส่แล้วจะทำให้ดูสูงเพรียวขึ้น แต่ถ้าเจ้าบ่าวรูปร่างสมาร์ทสูงใหญ่ไหล่กว้าง เลือกสูทแบบกระดุมสองเม็ดหรือสามเม็ดก็ดูดีได้ไม่ยาก


3. สูทกระดุม 6 เม็ด 2 แถว

เป็นชุดสูทที่ออกแบบได้เก๋ไก๋ ลองนึกถึงสูทของสุภาพบุรุษชาวอังกฤษ ซึ่งมีกระดุมทั้งหมด 6 เม็ด แต่มักติดจริงเพียงสองเม็ด ถือเป็นแบบสากลที่นิยมใส่ออกงานต่างๆ ลักษณะแตกต่างอื่นๆ คือ แหวกด้านข้าง กระเป๋าล่างซ้ายขวามีฝาปิด และมีกระเป๋าเจาะที่หน้าอกหนึ่งที่ ชุดนี้เหมาะสำหรับเจ้าบ่าวที่รูปร่างผอม หรือคนที่มีช่วงคอยาวหุ่นสูงเพรียว สวมใส่แล้วช่วยเสริมบุคลิกให้ดูตัวใหญ่ขึ้น หากเจ้าบ่าวของคุณค่อนข้างเจ้าเนื้อ แต่ปักใจเลือกสูทแบบนี้ไปแล้ว ควรเลือกแพทเทิร์นสวย ๆ และตัดเย็บประณีต และเลือกโทนสีเข้ม เช่น สีดำหรือสีน้ำเงิน ก็สามารถพรางรูปร่างให้ดูผอม และช่วยให้รูปร่างดูสง่าขึ้นได้เช่นกัน


สำหรับ "ชุดสูททักซิโด้" เหมาะสำหรับงานเลี้ยงดินเนอร์ เจ้าบ่าวควรเลือกชุดทักซีโด ซึ่งมีแบบพื้นฐานอยู่ 3 แบบ คือ

1. ชุดสูททักซิโด้ แบบปกไม่มีหยัก

เป็นชุดที่ปกยาวโค้งลงมาจากคอโดยไม่มีหยักแหลม ชุดนี้จะสวมใส่งานแต่งงานตอนกลางคืน ซึ่งเป็นชุดที่ผู้ชายไทยนิยมกันมากที่สุด บางคนอาจเรียกว่า “แบบปกกล้วยหอม” เป็นปกยาวโค้งลงมาจากคอโดยไม่มีหยักแหลม ใช้กระดุมแถวเดียว 1 เม็ด ที่แต่งแล้วช่วยเพิ่มบุคลิกภาพให้ดูดี เพราะจะช่วยให้ช่วงไหล่เด่นขึ้น และคอเสื้อที่ยาวลงมาเป็นรูปตัววี เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตมากกว่าแบบอื่น ทำให้คนสวมดูสูงเพรียวขึ้น แบบปกไม่มีหยักเหมาะกับคนทุกรูปร่าง และสำหรับคนที่อ้วนมาก ควรที่จะเลือกสวมชุดนี้ เพราะเสื้อกั๊กตัวในที่เข้ารูปจะช่วยปกปิดช่วงหน้าท้องได้ ทำให้ดูผอมลง

การแต่งสูทแบบปกไม่มีหยัก จะต้องแต่งประกอบกับเสื้อเชิ้ตสีขาวคอปกแบบเรียบ ๆ (ซึ่งเหมือนกับเสื้อเชิ้ตสากลทั่วไป) หรือคอตั้งปลายพับ(ปกวิงคอลลาร์ : Wing-collar) ทั้งสองแบบจะตีเกล็ด หรือ ติดแถบริ้วที่หน้าอก และต้องใช้ดุมขัดข้อมือและอกเสื้อ พร้อมกับสวมเสื้อกั๊กสีเดียวกับชุดสูทสวมทับอีกชั้น ผูกโบไท (Bow Tie) สีดำ ถ้าหากใส่ชุดสูทสีอื่น เช่น ชุดสูทสีขาว สีครีม โบไทก็ควรมีสีเดียวกับชุดด้วย และควรเพิ่มสีสันด้วยการหาผ้าสีขาวสะอาดปักกระเป๋า หรือนำดอกไม้สวย ๆ มาประดับตรงประเป๋าเสื้อก็สวยเก๋ไปอีกแบบ


2. ชุดสูททักซิโด้แบบปกมีหยัก

แบบปกมีหยัก หรือบางคนอาจเรียกว่า “แบบปกเทเลอร์” เป็นแบบที่มีปกหยักเหมือนสูทธรรมดา ใช้กระดุมแถวเดียว 3 เม็ด ถือเป็นแบบสากลที่นิยมใส่ออกงานต่าง ๆ (รวมถึงงานแต่งงานด้วย) นักออกแบบส่วนมากมักออกแบบมาให้ กลัดเฉพาะสองเม็ดบน แม้จะมีบางคนชอบชนิดกระดุมสามเม็ด ที่ดูคลาสสิกกว่า โดยพับปกลงมาถึงกระดุมเม็ดที่สอง ส่วนเม็ดบนสุดไม่ต้องกลัด แต่ซ่อนอยู่หลังปก ชุดนี้ส่วนมากจะใส่ในพิธีงานช่วงกลางวัน แต่ถ้าอยากประหยัดงบจะใส่ช่วงกลางคืนด้วยก็ไม่ว่ากัน แต่ควรเลือกสูทสีเข้มเข้าไว้จะดีกว่า แบบปกมีหยักนี้ เหมาะกับคนทุกรูปร่าง สวมใส่แล้วดูเท่ไม่ต่างจากชุดสูทหรูที่มีราคาแพง

การแต่งสูทแบบปกมีหยัก จะต้องแต่งประกอบกับเสื้อเชิ้ตตัวในสีขาวคอกว้าง ตามด้วยสวมเสื้อกั๊กสวมทับอีกชั้นด้านใน ผูกโบไทลายไหนก็ได้ แต่ขอให้ถูกกาลเทศะ และเลือกสีให้เข้ากับชุดสูท ปิดท้ายด้วยการสวมสูทตัวนอก เพื่อความสุภาพควรมีผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดตาปักไว้ในกระเป๋าเสื้อด้วย


3. ชุดสูททักซิโด้แบบปกแหลม

เป็นแบบที่มีปกกว้างกว่าแบบอื่นมาก มีให้เลือกทั้งแบบกระดุมแถวเดียว และสองแถว “ทักซิโด้” เป็นชุดสำหรับตอนกลางคืน แตกต่างจากสูททั่วไปคือปกกว้าง มีทั้งแบบกระดุมแถวเดียวและสองแถว ผ้าด้านหลังจะยาวและรัดรูปมากกว่าชุดสูทแบบอื่น ผู้ที่สวมใส่จึงต้องมีรูปร่างดีอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มบุคลิกภาพให้สง่างามยิ่งขึ้น ในแถบยุโรปหรืออเมริกาถือว่าชุดงานกลางคืนนี้เป็นทางการมากที่สุด แต่ในบ้านเราจะไม่ค่อยนิยมกัน เพราะผู้ชายไทยมีรูปร่างไม่สูงมาก และคนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าสวมใส่แล้วจะดูเหมือนนักมายากล แบบปกแหลมเหมาะสำหรับคนที่มีคอยาว หุ่นสูงเพรียว ส่วนคนที่มีรูปร่างเตี้ย ขอแนะนำว่าไม่ควรเลือกชุดนี้ เพราะทรงขากางเกงยาวเมื่อใส่แล้ว ผ้าจะไปกองอยู่ด้านหลังทำให้ดูเตี้ยตันกว่าเดิม

ปกเสื้อต้องเป็นผ้าแพรซาตินหรือผ้าไหมชนิดเนื้อหยาบ ส่วนโบหูกระต่าย ต้องทำจากผ้าประเภทเดียวกัน หูกระต่าย คือสิ่งที่สำคัญพอๆ กับการเลือกเน็คไท สูททักซีโด้ที่นิยมใช้กันมี 2 แบบ คือ แบบปลายแหลมและแบบปลายมน การผูกหูกระต่ายแบบผีเสื้อเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ถ้าคุณผูกเองไม่เป็นก็มีแบบสำเร็จรูปให้เลือกและสวยงามไม่แพ้กัน


การแต่งกายแบบ Black tie (แบล็กไท) ด้วยชุดทักซิโด้ จะต้องประกอบด้วย เสื้อเชิ้ตสีขาวคอปกแบบเรียบ ๆ หรือคอตั้งปลายพับ(ปกวิงคอลลาร์ : Wing-collar) ทั้งสองแบบจะตีเกล็ด หรือติดแถบริ้วที่หน้าอกก็ได้ และต้องใช้ดุมขัดข้อมือ และอกเสื้อ คาดทับด้วยผ้าคาดเอว หรือ Cummerbund (คัมเมอร์บันด์) สีดำ (ถ้าเจ้าบ่าวใส่เสื้อกั๊กผ้าคาดเอวไม่จำเป็นต้องใช้) สวมทับด้วยชุดทักซิโด้ ผูกโบไทสีดำหรือสีเข้ม ควรเพิ่มสีสันโดยการใช้ผ้าลินินสีขาวสวย ๆ ปักกระเป๋าไว้ด้วย จะทำให้ชุดดูหรูหราสะดุดตายิ่งขึ้นอีก


» "Black tie (แบล็กไท)" ต่างจาก "Tuxedo (ทักซิโด้)" อย่างไร?


Friday, July 15, 2011

การแต่งหน้าสำหรับเจ้าบ่าว ไม่ยากอย่างที่คิด! (Wedding Makeup Groom Guide)

ปัจจุบันการแต่งหน้าผู้ชายก็เริ่มเป็นที่ยอมรับในสังคม คุณผู้ชายบางท่านก็ต้องการสร้างความมั่นใจ ด้วยการแต่งหน้าเช่นเดียวกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว การแต่งหน้าสำหรับผู้ชาย ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะการแต่งหน้าส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นกิจกรรมของผู้หญิงเสียมากกว่า

แต่ในบางโอกาสที่คุณผู้ชายก็ต้องแต่งหน้า เพื่อสร้างความหล่อเหลาโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างใน "วันแต่งงาน" ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เครื่องสำอางช่วย ลบริ้วรอย เสริมแต่งให้ดูหล่อ และน่ามองโด่ดเด่น กว่าที่เคย เพื่อให้สมกับที่เป็นวันที่แสนพิเศษของคุณ

การแต่งหน้าเจ้าบ่าวนั้นมีลักษณะคล้ายกับ การแต่งหน้าเจ้าสาวอยู่บ้าง ในขั้นตอนการเตรียมผิว การทำความสะอาดผิว และการบำรุงผิวก่อนแต่งหน้า ซึ่งหนุ่มๆ ทั้งหลายควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนพื้นฐาน เพื่อเตรียมพร้อมก่อนแต่งหน้า อย่างถูกวิธี

ขั้นตอนการเตรียมผิวชายหนุ่มก่อนแต่งหน้า

• เริ่มจากการล้างหน้าด้วยครีมล้างหน้า เพราะจะช่วยทำความสะอาด ผิวหน้าได้หมดจด กว่าการล้างหน้าแบบธรรมดา เนื่องจากครีมล้างหน้า สามารถลบล้าง ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่ฝังลึกภายในรูขุมขนออก โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน

• หลังจากที่เราล้างหน้าด้วยครีมล้างหน้าแล้ว ชายหนุ่มที่มีผิวหน้ามัน ควรใช้โฟมล้างหน้าล้างตามอีกครั้ง จะทำให้ใบหน้าสะอาดหมดจดยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยล้างความมันของครีมล้างหน้าออกได้อย่างหมดจด

• ต่อมาคือการสมานผิวด้วยโลชั่นตามสภาพ ว่าเป็นผิวแห้งหรือผิวมัน โลชั่นจะช่วยกระชับและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทั้งยังช่วยให้ ใบหน้าดูสดใสมีสุขภาพผิวที่ดี เนื่องจากครีมบำรุงผิวจะช่วยปรับสมดุลของสภาพผิว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งหน้า โดยทาครีมเพียงเล็กน้อยบางๆ และเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า นอกจากจะได้ผิวที่นุ่มเนียนแล้ว ยังจะช่วยให้แป้งที่ใช้ติดทนนานอีกด้วย


ขั้นตอนการแต่งหน้าเจ้าบ่าว

หลังจากบำรุงผิวหน้าก็จะถึงขั้นตอนการแต่งหน้า ซึ่งการแต่งหน้าสำหรับเจ้าบ่าวนั้น จะเน้นการสร้างแสงเงาที่จะช่วยให้ดูหล่อเป็นพิเศษ เวลาที่มองจากภาพถ่าย การแต่งหน้าสำหรับเจ้าบ่าวนั้นมีขั้นตอนพอสมควร แต่จะไม่เข้มข้นเท่าเจ้าสาว จะใช้เครื่องสำอางค์ไม่มากเท่าการแต่งหน้าเจ้าสาว จะใช้เครื่องสำอางค์ เช่น รองพื้นแบบเหลว(โดยเลือกสีให้เข้ากับผิว) บรัชออนโทนน้ำตาล มาสคาร่าสีดำ อายแชโดว์โทนน้ำตาล ขาว และลิปมัน เป็นต้น

• การแต่งหน้าจะเริ่มจากการลงรองพื้นสีที่ตรงกับผิว เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า ขั้นตอนนี้ ถือว่าสำคัญมากเพราะหากลงรองพื้นไม่ทั่วและไม่เรียบเนียน ใบหน้าจะดูกระดำ กระด่างไม่เป็นธรรมชาติ

การแต่งหน้าสำหรับเจ้าบ่าวที่ต้องเจอกับแสงไฟจ้าๆ เนื่องจากการถ่ายรูป ตลอดเวลานั้น เมื่อแต่งออกมาแล้วใบหน้าต้องดูเรียบเนียน จึงจำเป็นต้อง เพิ่มความหนาของรองพื้น ซึ่งสามารถจะลงรองพื้นได้ถึงสองรอบ

วิธีการคือ ต้องรอให้รองพื้นที่ลงไว้รอบแรกแห้งสนิทเสียก่อน แล้วค่อยลงรอบสอง ห้ามทาทับกันไปเรื่อยๆ เพราะจะทำให้ใบหน้าไม่เรียบเนียนได้ดังใจ

• หลังจากที่ลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว จะตามด้วยแป้งฝุ่น สีของเนื้อแป้ง ต้องให้เข้มกว่า สีผิวเล็กน้อย เวลาลงให้ใช้วิธีตบเบาๆ ทำให้รองพื้น ที่ลงไปแล้ว ไม่หลุดออกมา ปัดแป้งให้พอดีทั่วทั้งหน้า การลงแป้งฝุ่นมากเกินไปจะดูหนาไม่เป็นธรรมชาติ แต่ถ้าลงน้อยเกินไปใบหน้าจะมันได้ง่าย

• เมื่อลงแป้งฝุ่นเรียบร้อยแล้ว จะต่อด้วยการใช้บลัชออน สีน้ำตาล ทาที่บริเวณปลายเปลือกตา หรือใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลทาบางๆ ให้พอเห็นเป็นเงาที่บริเวณปลายหางตา โดยใช้แปรงทา อายแชโดว์แตะ หรือใช้ปลายนิ้วมือทาเบาๆ ให้ดูมีมิติที่หางตา วิธีนี้ยังช่วยแก้ปัญหา ของเจ้าบ่าวที่ตาดูบวมเกินไป หรือเจ้าบ่าวตาตี่ก็จะทำให้ดวงตา ดูโตขึ้น

• ขั้นตอนต่อมาให้ใช้แปรง ปัดบรัชออนสีน้ำตาลเบาๆ ที่บริเวณกกหู ให้เห็นสีของ บรัชออนพอเป็นเงา บริเวณพวงแก้มให้ใช้สีชมพูหรือสีส้มสว่าง ซึ่งจะดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าสำหรับผู้ชาย เวลาปัดให้ยิ้มกับกระจกเพื่อให้เห็นพวงแก้มชัดเจน แล้วปัดทับพวงแก้มเบาๆ สองสามทีพอให้เห็นสี

เมื่อมีการถ่ายรูปภาพที่ออกมาจะดู เป็นธรรมชาติ สำหรับขนตาจะตัดให้พองอน ถ้าเจ้าบ่าวมีขนตาเยอะอยู่แล้ว ไม่ต้องปัดมาสคาร่า แต่ถ้าขนตาไม่ยาวงอน เมื่อดัดขนตาแล้วให้ปัดมาสคาร่า ที่ขนตาเบาๆ จากนั้นใช้มาสคาร่าแท่งเดิมปัดคิ้วให้ได้รูป

เพิ่มแสงเงาให้ดูมีมิติมากขึ้นบนใบหน้าด้วยการใช้ อายแชโดว์สีขาว ไฮไลท์บริเวณดั่งจมูก ตั้งแต่หน้าผากจนถึงปลายจมูก สิ่งนี้จะทำให้เจ้าบ่าวมีสันจมูกที่โด่ดเด่นขึ้นมาทันใด และทำให้ดูหน้ามีมิติมากขึ้น แต่อย่าลงไฮไลท์สีขาวเยอะหรือหนา เพราะจะดูจมูกโดดมากเกินไปทำให้ดูไม่กลมกลืนกับใบหน้า

ขั้นตอนสุดท้ายคือการทาลิปมันที่ริมฝีปาก สีของลิปมันต้องเลือกให้เหมาะ กับผิวของเจ้าบ่าว สีที่เหมาะสมคือสีเข้มที่เข้ากับสีของริมฝีปาก แล้วซับความมัน ที่ปากด้วยกระดาษทิชชู่เบาๆ

วิธีการแต่งหน้าชายหนุ่ม อาจจะซับซ้อนและมีความยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่ตั้งใจจริง สิ่งสำคัญในการแต่งหน้าสำหรับเจ้าบ่าวก็คือ ควรลองแต่งหน้าก่อนวันงาน เพื่อเป็นการทดสอบสีของเครื่องสำอางค์ และเป็นการลองมือให้เกิดความเคยชิน และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ก่อนถึงวันงานแต่งงานจริงอีกด้วย

เห็นไม๊หล่ะค่ะ เพียงเท่านี้ เจ้าบ่าว ก็หล่อ โดดเด่นเป็นสง่าในงานแต่งงานไม่แพ้เจ้าสาวเหมือนกัน
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...