Showing posts with label ความรัก. Show all posts
Showing posts with label ความรัก. Show all posts

Monday, August 27, 2012

ทำไมต้องสวมแหวนแต่งงานที่ "นิ้วนางข้างซ้าย"?

(Why is the wedding ring on your fourth finger?)

เหตุผลที่ต้อง สวมแหวนแต่งงาน ที่นิ้วนางข้างซ้าย

วัฒนธรรมตะวันตก การสวมแหวนแต่งงาน หรือแหวนหมั้นจะสวม อยู่ในนิ้วนางข้างซ้าย แหวนนี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความซื่อสัตย์ต่อกัน วัฒนธรรมการ สวมแหวนแต่งงาน แม้จะเป็นของชาวตะวันตก แต่ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศเราเองอย่างที่เห็นๆ กันอยู่





ที่มาของการเลือกให้นิ้วนางข้างซ้าย เป็นนิ้วสำหรับ สวมแหวนแต่งงาน

เกิดขึ้นเพราะคนสมัยโบราณเชื่อว่านิ้วนางข้างซ้ายนั้นเป็นที่ตั้งของ เส้นเลือดแห่งความรัก ทั้งนี้ ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะทำให้มนุษย์ทราบระบบการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต คนโบราณเชื่อว่าเส้นเลือดบนนิ้วนาง เชื่อมต่อไปยังหัวใจ อันเป็นสัญลักษณ์ของความรัก โดยความความเชื่อดังกล่างมีการอ้างว่าเป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นในอาณาจักรก รีกโบราณ เมื่อประมาณ 3 ปี ก่อนคริสตกาล

ด้วยการเชื่อมโยงระหว่างมือและหัวใจ จึงมีการตั้งชื่อเส้นเลือดดังกล่าวว่า Vena amoris อันเป็นภาษาละตินซึ่งมีหมายความว่า เส้นเลือดแห่งความรัก (vein of love)
......................................................................................................................................................
Vena amoris is a Latin name meaning, literally, "vein of love". Traditional belief established that this vein ran directly from the heart to the fourth finger of the left hand. This theory has been cited in western cultures as one of the reasons the engagement ring and/or wedding ring was placed on the fourth finger, or "ring finger". It is to be noted that this traditional belief is a fallacy as all the fingers in the hand have a similar vein structure.
by wikipedia
...................................................................................................................................................... 

ตามความเชื่อดังกล่าว ผู้คนจึงยอมรับให้สวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางข้างซ้าย และการ สวมแหวนแต่งงาน ในนิ้วนางข้างซ้ายนี้เองเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า คู่แต่งงานได้ประกาศมอบความรักนิรันดรให้แก่กันและกัน จนกลายเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาในยุโรปจนถึงทุกวันนี้

ในสมัยกลางในยุโรป พิธีแต่งงานของชาวคริสต์จะมีการ สวมแหวนแต่งงาน เรียงกันมาตั้งแต่ นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง ของมือข้างซ้าย เพื่อแสดงถึงหลักตรีเอกานุภาพของศาสนา อันได้แก่ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ก่อนที่ในเวลาต่อมา คู่สมรสจะสวมเพียงนิ้วนางข้างซ้ายเพียงนิ้วเดียว

ในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ แหวนแต่งงานจะสวมบนนิ้วนางข้างซ้าย อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศ เช่น เยอรมนี และชิลี แหวนแต่งงานจะถูกใช้สวมบนนิ้วนางข้างขวาแทน ชาวคริสต์นิกายออทอดอกซ์ พวกยุโรปตะวันออกและชาวยิวมีธรรมเนียมการสวมแหวนแต่งงานข้างขวาเช่นกัน ขณะในเนเธอร์แลนด์ และกลุ่มชาวคริสต์นิกายคาทอลิกจะสวมแหวนแห่งความรักนี้บนนิ้วนางข้างซ้าย

Friday, March 23, 2012

เคล็บลับ การครองรักให้ยืนนาน (Guide to stay in love forever)

เคล็บลับ การครองรักให้ยืนนาน

รศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีเคล็ดลับการครองรักให้ยืนนาน มาบอกกับทุกคนโดยเฉพาะคู่รักที่แต่งงานกันแล้ว

1. บอกรักทุกวัน ใคร ๆ ก็อยากได้ยินคำว่า "รัก" จากคนที่ตัวเองรัก เป็นคำที่ฟังได้บ่อยครั้งอย่างไม่รู้เบื่อ และคู่รักส่วนใหญ่มักใช้คำนี้เป็นตัวตัดสินที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน วันนี้คุณบอกรักกับคนรักของคุณหรือยัง? อย่ามัวแต่เขินอายหรือกระดากใจ เพราะคุณสามารถบอกรักได้ทุกวัน เพราะมันจะเป็นเสมือนผงชูรสที่ช่วยชูรสชาติชีวิตรักของคุณให้หอมหวานกลมกล่อม

2. พูดคำหวานให้เป็นเรื่องปกติ เช่น ที่รักจ๊ะ… ที่รักจ๋า เป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วนจากคู่รักข้าวใหม่ปลามัน และมักจะหายไปกับกาลเวลา ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างก็อยากได้ยินจากกันและกัน คำชื่นชมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสิ่งต่าง ๆ ที่เขาทำให้กับคุณ หรือคุณทำให้กับเขาจะเป็นเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้ชีวิตคู่เจริญงอกงามเหมือนต้นไม้ที่ผลิดอกออกผลมีสีสันสวยสดงดงาม เช่น สิ่งที่คุณทำให้กับฉันช่างวิเศษจริง ๆ คุณเป็นคนพิเศษกว่าใคร ๆ ทุกครั้งที่มีปัญหา…คุณทำให้ฉันรู้สึกสบายใจได้เสมอ

3. ขอบคุณ และ ขอโทษ คำสองคำที่จำให้ขึ้นใจ อาจเป็นคำธรรมดา และเป็นคำ ง่าย ๆ ที่หลายคนอาจไม่นึกถึง แต่เป็นคำที่มีความหมายมากสำหรับชีวิตคู่ เพราะยิ่งอยู่ใกล้กันมากอาจทำให้ลืมระวังความรู้สึกละเอียดอ่อนและเปราะบาง ยิ่งรักมาก ก็รู้สึกอ่อนไหวมาก บางครั้งเรื่องเดียวกัน คนอื่นทำอะไรไม่พอใจนั้นอาจทำร้ายความรู้สึกได้ไม่เท่ากับคนรักทำให้เสียใจ พูดคำว่า ขอบคุณ เมื่อคุณรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาทำให้กับคุณ เอ่ยคำว่า ขอโทษ เมื่อทำผิดและทำให้เขาต้องเสียใจแม้็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

4. รู้จักถอย และรู้จักยอมให้เป็น โดยไม่มีใครถือทิฐิเพราะความรักไม่มีเรื่องของศักดิ์ศรี และทิฐิต่อกัน

5. ให้อภัยกับคนที่รักเสมอ การให้อภัยคือของขวัญอันยิ่งใหญ่และล้ำค่าต่อคนรัก ไม่ว่าคุณหรือคนรักจะเคยทำผิดพลาดอะไรลงไปหรือทำผิดต่อกัน ขอเพียงให้อภัยกัน เรื่องเลวร้ายก็จะกลายเป็นเรื่องดี อย่าลืมว่าไม่มีใครที่จะไม่เคยทำผิดในชีวิต

6. อย่าให้น้ำผึ้งพระจันทร์เริ่มขม แต่งงานแล้วเรามักจะวางแผนฮันนีมูนทันที แต่เวลาผ่านไปเรามักคิดถึงการฮันนีมูนเมื่อถึงวาระครบรอบปีเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเราสามารถวางแผนฮันนีมูนบ่อยครั้งเท่าที่ใจเราต้องการ และไม่ต้องรอ จนถึงวันน้ำผึ้งพระจันทร์เริ่มขมเสียก่อนจึงค่อยฮันนีมูนกันอีกรอบ

7. "ให้" แทนการคาดหวัง แน่นอนที่สุดว่าฝ่ายหญิงย่อมต้องการให้ฝ่ายชายรัก และเอาอกเอาใจเธอตลอดไป มีความเสมอต้นเสมอปลายไปรับไปส่งเหมือนอย่างที่รักกันใหม่ ๆ และบอกรักเธอสม่ำเสมอ ในขณะที่ฝ่ายชายก็ต้องการให้ฝ่ายหญิงยังคงความอ่อนหวานน่ารัก ช่างปรนนิบัติเอาใจ คอยดูแลตัวเองให้สวยใสเสมอ เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่ต้องการไม่ได้เป็นไปตามที่ตัวเองคาดหวัง ต่างฝ่ายต่างก็จะผิดหวัง และพยายามเรียกร้องอีกฝ่ายมากขึ้น ก็จะทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจในที่สุด ถ้าต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ให้ ครอบครัวก็จะมีความสุข

8. หนักแน่น มั่นใจกันและกัน ความเชื่อมั่นเป็นหัวใจสำคัญของความรัก เมื่อเชื่อมั่นก็ต้องหนักแน่น เพื่อความมั่นใจในตัวซึ่งกันและกัน เมื่อได้ยินอะไรผ่านเข้ามาในหู ก็ต้องเป็นคนหูหนัก อย่าหูเบาเชื่ออะไรง่าย ๆ เพราะรังจะเป็นตัวบั่นทอนความรัก และความไว้วางใจที่มีต่อกัน

9. นึกถึงสิ่งที่ดี ๆ เสมอ ครั้งใดที่คุณรู้สึกโกรธคนรัก ให้คิดเสมอว่า อย่างน้อยเขาก็คือคนที่คุณรัก และเขาก็รักคุณ อย่าโกรธกันนานข้ามคืน ให้มองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก อย่ามองเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ให้คิดเสมอว่า คนรักของคุณก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาย่อมทำพลั้งเผลอผิดพลาดกันได้

10. พูดทุกอย่างด้วยความรู้สึกจากใจ อย่าปิดบังและเก็บงำความรู้สึกที่แท้จริง ถึงคุณและเขาจะรักกันมากเพียงใดก็ตาม ให้จำไว้อย่างว่า ไม่มีใครสามารถจะรู้ใจใครไปได้ทุกเรื่อง บางอย่างอาจเกิดจากการคาดเดา และเมื่อคาดเดาก็อาจทายใจกันผิด ทำให้อีกฝ่ายคิดมากทั้งที่อาจไม่มีอะไรในกอไผ่เลยก็ได้


วันนี้วันวานของคุณและคนรักยังหวานอยู่หรือเปล่า? ถ้าคุณรู้สึกว่า ความรักเริ่มจืดจาง หรือเริ่มหวานน้อยลง ลองเติมน้ำหวานให้ความรักของคุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเติมได้ทุกครั้งที่ใจคุณต้องการ รับรองว่าน้ำผึ้งพระจันทร์จะไม่มีวันขมอย่างแน่นอน


credit: http://www.tlcthai.com/women

Thursday, November 10, 2011

วิธีสังเกต "รักแท้" (True Love)

วิธีสังเกต "รักแท้"

1. ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัส กับความสุขร่วมกับคน ๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงา ๆ และคิดถึง ไม่ใช่พอเขาหันหลังให้ ก็กระโดดโลดเต้นดีใจ

2. ต้องให้ความเคารพนับถือคน ๆนั้น ถ้าจะรักใครสักคน แล้วตั้งหน้าดูถูกไม่เคยให้ความเคารพ ในความเป็นเขา แล้วคนอื่น ๆ จะเคารพคน ๆ นั้น ของเราได้อย่างไรและเราจะภูมิใจหรือ กับการที่ได้รักใคร่กับคนที่ใคร ๆ เขาดูถูก

3. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ

4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน สัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคนเราย่อมผิดพาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน

5. ต้องเข้าถึงความต้องการอารมณ์ และความรู้สึกของคน ๆ นั้น อย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้าง ก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเอง ด้วยความเต็มใจ

6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคน ๆ นั้น ไม่ว่าจะต้องเสน่ห์ในความเป็นหญิงกำยำ หรือในความล้านจนขึ้นเงาวับบนหัวเขา มันก็มีส่วนในความรักเหมือนกัน

7. ต้องรู้สึกว่าเรา สามารถจะพูดคุยกับคน ๆ นั้นได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจ ขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้ว เราจะอับอายหรือไม่ก็กลัวว่าเขาได้ยิน แล้วจะเดินหายไปจากชีวิต

8. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคน ชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป

9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลาย ๆ ด้าน เป็นต้นว่าความคิดอารมณ์ และเวลาแต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง

10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่าร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ได้มีรักแท้กับคนๆนั้น

ลองนำไปสังเกตความรักของคุณดูก็ได้ ว่า...เป็นรักแท้แบบไหน


credit: http://campus.sanook.com

Saturday, October 29, 2011

25 วิธี ดูแลความรัก (Take care of your love)

25 วิธี ดูแลความรัก (Take care of your love)

ในทางตรงกันข้ามหากรักที่เคยสร้างสุข กลายมาเป็นหมดรัก ชีวิตย่อมเป็นทุกข์ ความรักที่มีจึงต้องดูแลอย่างดี เพื่อให้ความรักนั้นไม่จากไป ดังเช่น 25 วิธี ต่อไปนี้


1. อย่าเขินที่จะบอกรัก

2. จดจำรายละเอียดของอีกฝ่าย เช่น ชอบทานอะไร ชอบฟังเพลงแนวไหน กิจกรรมสุดโปรดคืออะไร แล้วหยิบยื่นสิ่งเหล่านี้ให้เสมอ

3. โรแมนติกอย่างรู้กาละเทศะ เลือกสถานที่ให้ถูกที่ เลือกเวลาให้ถูกเวลา เรื่องโรแมนซ์ใครก็ชอบ แต่ความพอเหมาะพอดีก็สำคัญ

4. ให้เกียรติกันและกันเสมอ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

5. อย่าปล่อยให้อารมณ์โกรธอยู่เหนือความรักที่มี นึกถึงเรื่องดีๆ ที่เขาเคยทำให้ จะช่วยให้อารมณ์โกรธหรืออารมณ์ชั่ววูบเบาบางลง

6. เมื่อมีปัญหาควรใช้เหตุผลในการพูดคุย เป็นเรื่องธรรมดาที่คนสองคนจะมีเรื่องขัดแย้ง แต่ถ้าทั้งคู่พร้อมที่จะปรับตัวเข้าหากัน ปัญหาทั้งหลายก็จะกลายเป็นเรื่องเล็ก

7. ปล่อยให้อีกฝ่ายมีเวลาเป็นของตัวเอง การเกาะติด ควบคุมมีแต่จะทำให้ความรักจืดจางได้ง่าย ปล่อยให้อีกฝ่ายไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง รวมทั้งพยายามให้ตัวเองมีโลกส่วนตัวบ้าง จะได้ไม่อึดอัดเช่นกัน

8. พูดกันตรงๆ โดยเลือกใช้คำพูดที่ไม่ทำร้ายจิตใจ

9. มีขอบเขตในการปรับตัว แน่นอนว่าต่างฝ่ายทั้งเราและเขาต่างต้องปรับตัวเข้าหากัน แต่ควรมีขอบเขต ไม่ใช่ยอมเปลี่ยนแปลงให้เป็นแบบที่อีกฝ่ายต้อวการทุกอย่าง จนไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง เพราะไม่มีใครสามารถเปลี่ยนตคั้นหาคำตอบหาอีกฝ่ายยังไม่พร้อม การดึงดันให้รู้เดี๋ยวนั้น ว่าทำไม? เพราะอะไร? จะเอายังไง? เป็นการกดดันอีกฝ่ายอย่างไม่มีประโยชน์ หากอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ควรลองถอยออกมาหนึ่งก้าว ทำใจให้สงบ รอจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะพร้อม แล้วค่อยคุยกันใหม่ก็ยังไม่สาย

12. ดูแลตัวเองให้ดูดีเสมอ

13. ไม่ควรคาดหวังกับความรัก เพราะเป็นเรื่องความรู้สึกของคนสองคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว อย่าคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จะทำนั่นทำนี้ให้ เพราะถ้าผิดหวังจะเสียใจทั้งสองฝ่าย ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ

14. ห้ามพูดถ้อยคำหยาบคาย จะทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน ก็ห้ามด่าทอกันเสียๆ หายๆ

15. ซื่อสัตย์และไว้ใจกัน

16. หาสิ่งของที่ต้องดูแลร่วมกัน เช่น เลี้ยงสัตว์ ต้นไม้ หรือกิจการเล็กๆ เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างสองคน

17. ให้โอกาสอีกฝ่ายแก้ไขข้อผิดพลาด กับคนที่เรารักยิ่งต้องให้อภัยและให้โอกาส

18. อย่าอายที่จะขอโทษ

19. หากิจกรรมสร้างสรรค์ทำร่วมกัน เช่น ชวนกันเล่นกีฬา ไปดูงานศิลปะ เพื่อให้ความรักสดใส และได้พบสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต

20. นึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ อย่ามัวแต่คิดว่าทำไมอีกฝ่ายไม่เข้าใจเรา นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังทำให้เป็นคนขี้น้อยใจอย่างไม่มีเหตุผล

21. รู้สึกดีกับสังคมที่อยู่ ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน เพื่อยกระดับจิตใจและทำให้ภูมิใจในตัวเอง

22. อย่าปิดกั้นโอกาส เปิดตัวเองให้จักคนที่หลากหลาย จะทำให้รู้คุณค่าคนใกล้ตัวและรู้ใจตัวเอง

23. รู้จักใช้ภาษากายในการสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย เช่น จับมือ ลูบหลัง เพราะสามารถสื่อความในใจได้ดีกว่าคำพูดในหลายโอกาส

24. คิดถึงอนาคต แต่อย่าพูดบ่อยจนกลายเป็นการควบคุมผูกมัด พูดในจังหวะที่เหมาะสม ให้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในแผนการอนาคตของกันและกัน

25. รู้จักรักตัวเอง เพื่อให้สามารถรักคนอื่นได้เช่นกัน


credit: http://campus.sanook.com

Wednesday, August 24, 2011

7 เคล็ดลับ เพิ่มความหวานให้กับความรักของคุณ (7 ways to Take care of your love)

7 วิธีเพิ่มความหวานให้กับความรักของคุณ
(7 ways to Take care of your love)


มีคนเคยบอกว่าการมีความรักนั้นไม่ยาก แต่จะรักษาความรักนั้นให้คงอยู่กับเราได้ยาวนานนั้น ช่างยากเหลือเกิน และในเมื่อความรักคือพลังสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ใครมีความรักอยู่ หาวิธีรักษาความรักนั้นไว้เถอะ ไม่ต้องฟอร์ม ไม่ต้องหยิ่งอะไรกันนัก แค่คิดอยากทำอะไรให้ใคร จงก็ทำไปอย่างดีที่สุด เท่านี้ความรักก็อยู่ในใจได้ตลอดแล้วค่ะ

บาร์ บาร่า เดอ แองเจอลิส ผู้เขียน Are you the one for me? บอกว่า ความสัมพันธ์ที่แสนวิเศษไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะคุณมีความรัก แต่คุณจะต้องทุ่มเทเพื่อให้มันวิเศษอย่างนั้นตลอดไป อย่ารอจนถึงโอกาสพิเศษถึงจะแสดงออกซึ่งความรักของคุณ แต่บำรุงเลี้ยงชีวิตรักของคุณอย่างสม่ำเสมอในทุกวันด้วยวิธีการต่อไปนี้

1. ให้เวลา เพิ่มความหวาน
ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด เป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตสำหรับคู่รัก มากกว่างาน เงินทอง ชื่อเสียง การให้เวลาเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคนรัก ควรจะถูกจัดให้อยู่ในชีวิตประจำวัน และเป็นกิจกรรมในแต่ละวันของคุณ เพื่อให้คุณได้มีอารมณ์หวานซึ้ง ผ่อนคลาย และสบายๆไปกับมันด้วย จำเป็นมากเลยที่คุณต้องคอยหาเวลาเล็กๆน้อยๆ กับคนรักทุกวันเสมอ

หาหนทางที่จะใช้เวลาด้วยกันทุกวัน กินอาหารเย็นด้วยกัน ดื่มกันตอนค่ำ เดินเล่นกัน ประเด็นก็คือ ใช้เวลาด้วยกันทุกวัน พูดคุยหรือแม้แต่อยู่ด้วยกันเงียบๆ มันจะยิ่งสร้างความใกล้ชิดสนิทแน่นระหว่างกัน

2. อย่าอายที่จะบอกคำว่า "รัก"
7 วิธีเพิ่มความหวานให้กับความรักของคุณ (7 ways to Take care of your love)คู่รักหลายๆคู่มักไม่เคยเอ่ยคำว่า "รัก" ออกจากปาก เพื่อให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หลายคนคิดว่าแค่การกระทำ ก็น่าจะเพียงพอให้ได้รู้แล้วว่ารักไม่เห็นต้องบอก หรืออาจมีความเขินอาย ไม่ชิน ไม่กล้ากับการบอกรัก ทั้งๆที่ความรู้สึกรักนั้นมีอยู่มากมาย จำไว้เถอะค่ะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ต่างต้องการได้ยินคำว่ารักจากคู่รักของตัวเองทั้งนั้น เชื่อเถอะค่ะคำว่า "รัก" นั้นสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้กับคู่รักอย่างแน่นอน

อย่าลืมบอก "รัก" กันอย่างน้อยวันละครั้ง เพราะคู่รักของคุณ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชาย หรือฝ่ายหญิง ก็ล้วนอยากได้ยินคำนี้นะค่ะ

3. รำลึกบรรยากาศ สานสัมพันธ์
บางทีการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันนานๆ มักทำให้เราลืมความรู้สึกที่ทำให้หัวใจเราเต้นตูมตามได้ ลองคิดย้อนกลับไปหาบรรยากาศเก่าๆ นึกถึงสิ่งที่คนรักของเราชอบ แต่ไม่ได้ทำมานานแล้ว โดยพยายามฟื้นฟูมนต์ขลังของความรักให้กลับมา ซึ่งเราอาจจะลืมว่าเราชอบบางอย่างมากขนาดไหน เมื่อเราไม่สนใจมันมากอีกต่อไป จงเอาบรรยากาศนั้นกลับคืนมานะค่ะ จะทำให้ความรักของคุณหวานชื่นขึ้นแน่นอน

4. สร้างความคิด พิชิตความห่าง
ถ้าเรากำลังมีความคิดถึงความสัมพันธ์กับคนที่เราจะอยู่ด้วยตลอดไป นั่นก็นับว่าเรากำลังไปได้สวยในระดับหนึ่ง ที่จะทำให้ความรักของเราไม่เสื่อมคลายลงไปได้ จำความรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่ได้เจอคนรักของคุณไว้เสมอ นึกเลยว่านานแค่ไหนที่ใช้เวลาหมดไปกับการแต่งตัวให้ดูดีในสายตาเขา และปฎิบัติกับเขาเหมือกับคนรักที่แสนจะพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง

5. อย่าหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ จนทำให้รักร้าว
อย่าหงุดหงิดไปกับเรื่องเล็กๆ คุณจะปล่อยให้นิสัยไม่ดีของเขารบกวนคุณให้วอกแวก หรือจะยอมรับมันและหาทางเลี่ยงมันและแก้ไขมันซะ ตัวอย่างเช่น ถ้าเขาชอบเปิดฝาหลอดยาสีฟันทิ้งไว้ ก็ซื้อแยกกันคนละหลอด หรือเขาชอบทิ้งเสื้อผ้าเกลื่อนเหรอ เก็บมันซะ หรือไม่ก็ไม่ใส่ใจมัน มองข้ามมันไปบ้าง ...รู้จักมองข้าม และเรียนรู้ที่จะให้ความสำคัญ กับเรื่องของกันและกันค่ะ

6. โกรธได้แต่รู้จักให้อภัย
หากคุณมีเหตุอันระงับอารมณ์ไม่อยู่ด้วยปัญหาระหว่างคู่รัก จงตั้งสติและหายใจลึกๆ เวลาคุณโกรธ อย่าพยายามพูดกันเวลาที่อารมณ์ไม่ดี หลบกันไปสักพักเพื่อจะได้ตั้งสติ คุณจะได้พูดคุยกันได้ว่า อะไรรบกวนจิตใจคุณ แทนการชี้หน้าด่าว่ากันที่จะทำให้เสียใจในภายหลัง

อย่าใช้จุดอ่อนของเขาหรือเธอโจมตีกันเด็ดขาด! เพราะจะทำให้สิ่งที่อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่สลักสำคัญในสายตาคุณ อาจจะเป็นเรื่องซีเรียส เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา เรียนรู้ว่าเรื่องอะไรสำคัญสำหรับเขาหรือเธอ และอย่าเอาปัญหาภายในครอบครัวไปพูดกับเพื่อน พ่อแม่ หรือใครเด็ดขาด และอย่าได้เอามันมาโจมตีเขาในภายหลังด้วย

7. ประดิษฐ์อุปกรณ์ ย้อนหารัก
เราสามารถคิดสร้างสรรค์ หาอุปกรณ์รอบตัวมาเพิ่มความรักให้กันได้ ลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ สร้างความลึกลับ และปลุกความอยากรู้อยากเห็นของคนรักของคุณ กับสิ่งที่คุณกำลังเตรียมไว้ให้เขา อุปกรณ์เหล่านี้สามารถสร้างบรรยากาศได้ดี เช่น ลุกขึ้นขุดรูปถ่ายคู่ของคุณกับเขา สมัยเดทกันแรกๆ นำไปอัดใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะ ให้เป็นสิ่งแรกที่เขาจะกลับมาเห็น ทำให้รำลึกถึงความรักระหว่างเราเมื่อแรกเริ่ม ก็สามารถเพิ่มเติมความหวานให้กับความรักของคุณได้ค่ะ


Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...