Tuesday, August 2, 2011

เริ่มต้นวางแผนงานแต่งงานอย่างไรดี?

เริ่มต้นวางแผนงานแต่งงานอย่างไรดี?
(How to plan your wedding?)


Wedding's TIPs:
.............................................................
เขียน diary ช่วงเตรียมงานแต่งงาน ซึ่งจัดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งที่น่าจดจำไว้ เนื่องจากคุณจะมีกิจกรรมที่ร่วมกันทำร่วมกันคิดร่วมกันตัดสินใจ ถ้าคุณจดมันไว้ใน diary แล้วเอามาอ่านหลังจากเสร็จงานแต่งงาน มันจะเป็นอะไรที่ช่วยทำให้คุณและคู่รักของคุณหัวใจพองโตอีกครั้ง

.............................................................


เริ่มต้นวางแผนงานแต่งงานอย่างไรดี?

1. บอกให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้ หลังจากที่คุณทั้งคู่ได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าจะจัดงานแต่งงาน คุณควรบอกให้คุณพ่อและคุณแม่ทราบก่อนเป็นอันดับแรก เล่าให้ท่านทั้งคู่รู้ถึง idea ต่างๆที่คุณได้ plan ไว้สำหรับงานแต่งงานของคุณ ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีอันหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ของเราก็จะได้ช่วย share ประสบการณ์ของท่านทั้งสองให้เราทราบด้วย ยิ่งกว่านั้น พ่อและแม่ของคุณ ยังอาจจะเป็นผู้จัดการกับการหาฤกษ์แต่งงานให้คุณทั้งสองอีกด้วย หลังจากนั้นค่อยประกาศให้เพื่อนๆ ที่สนิทได้รู้ โดยเฉพาะเพื่อนที่จะมามีส่วนสำคัญในงานแต่งงาน เช่น เพื่อนเจ้าบ่าว หรือเพื่อนเจ้าสาว

2. ทำบันทึกประจำวัน ถ้าคุณยังไม่เคยทำ ในช่วงวางแผนหรือเตรียมงานเกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณ ถ้าคุณยังไม่เคยเขียน diary ขอแนะนำให้ลองเขียน diary หรือบันทึกประจำวัน เพราะช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดีช่วงหนึ่งที่น่าจดจำไว้ เนื่องจากคุณจะมีกิจกรรมที่ร่วมกันทำร่วมกันคิดร่วมกันตัดสินใจ ถ้าคุณจดมันไว้ใน diary แล้วเอามาอ่านหลังจากเสร็จงานแต่งงาน มันจะเป็นอะไรที่ช่วยทำให้คุณและคู่รักของคุณหัวใจพองโตอีกครั้ง เพราะนั่นคือช่วงเวลาแห่งความสุขช่วงหนึ่งในชีวิตคุณนั่นเอง

3. เริ่มประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ถึงข่าวดีของคุณทั้งสอง มีหลายทางที่คุณจะบอกให้พวกเค้ารับรู้กัน ไม่มีวิธีไหนที่ดีกว่ากัน อยู่ที่คุณสะดวก เช่น

- โทรศัพท์บอก
- นัดเจอ แล้วประกาศข่าวดีให้รู้โดยพร้อมเพรียง
- ประกาศทางหน้าหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์
- Email ให้เพื่อนๆ ญาติๆ รับรู้ว่าคุณจะแต่งงาน
- สร้าง website บอกรายละเอียดงานแต่งของคุณ คุณอาจจะเล่า Progress งานแต่งของคุณผ่านทาง website ก็ได้

4. ทำ schedule หรือแผนงานต่างๆ ที่คุณต้องเตรียม เช่น เมื่อไหร่เลือกของชำร่วย เมื่อไหร่ต้องสรุปรูปแบบการ์ดแต่งงาน ต้องไปลองชุดเจ้าสาวเมื่อไหร่ การทำ schedule เป็นสิ่งสำคัญ ที่จำเป็นถึงแม้ว่ามันไม่ง่ายเลย แต่มันจะช่วยให้คุณได้รู้ว่าช่วงไหนคุณต้องทำอะไรให้เสร็จ ถ้าคุณอยากให้งานแต่งงานของคุณ perfect อย่าลืมทำ schedule หรือตารางแผนงานของคุณ

5. กำหนด theme หรือรูปแบบงานแต่งงานของคุณ กำหนดรูปแบบการแต่งงาน หรือ theme งานแต่งของคุณ ว่าคุณอยากจะให้ออกมาเป็นอย่างไรในภาพรวาม รวมถึงพิธีการต่างๆ เช่น จะเป็นพิธีจีน ไทย ผสม หรือพิธีตะวันตก ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับพิธีทางศาสนาด้วย เพราะแต่ละศาสนาจะมีพิธีเฉพาะที่แตกต่างออกไป วิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการเริ่มต้นคือ พูดคุยและปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ ลองเขียนงานแต่งงานในอุดมคติของคุณว่ามีอะไรบ้างเป็นข้อๆ จากนั้นก็มาดูแต่ละข้อว่าเป็นไปได้แค่ไหน ซึ่ง list เหล่านี้จะช่วยคุณได้ โดยจะเป็นโครงคร่าวๆ ของ Theme งานแต่งงานของคุณ

6. กำหนดงบประมาณของการจัดงานแต่งงาน แนะนำให้ใช้ ตารางตรวจสอบงบประมาณ (Budget Worksheet) คุณต้องตรวจสอบงบประมาณหรือเงินเก็บที่คุณมี คุยกับคุณพ่อคุณแม่ว่ามีส่วนไหนที่ท่านจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้บ้าง ส่วนไหนที่คุณจะรับผิดชอบเอง คู่แต่งงานบางคู่ต้องถึงกับมีการกู้เงินมาใช้สำหรับงานแต่งงาน แต่เราไม่แนะนำให้กู้เงินมาแต่งงาน ถ้าไม่จำเป็นจริง เพราะว่าโอกาสทะเลาะจะเกิดขึ้นได้หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว เพราะพวกคุณจะต้องเครียดกับการหาเงินมาใช้หนี้ คุณคงไม่อยากให้ชีวิตแต่งงานของคุณมีปัญหาตั้งแต่เริ่มแต่งงาน ในช่วงเตรียมงานแต่ง ขอแนะนำให้ใช้จ่ายโดยบัตรเครดิตจะดีกว่า เพราะว่าคุณจะได้มีโอกาสสะสมแต้มจากบัตรเครดิต เช่น ได้ไมล์สะสม แลกเป็นเงินคืนได้ หรือแลกของได้ ซึ่งรางวัลที่ได้จากแต้มสะสมคุณสามารถนำไปใช้สำหรับ honeymoon หรือได้ของที่แลกมาสำหรับใช้ในบ้าน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้จ่ายค่าบัตรเครดิตตรงเวลาด้วยนะคะ)

7. เลือกผู้ที่จะมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวช่วยงานคุณได้มากไม่ใช่ทำแต่แค่ยืนข้างหลังคุณในวันรดน้ำสังข์เท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีเพื่อนบ่าวสาวตั้งแต่ 2 – 12 คน ซึ่งจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ก่อนที่คุณจะเลือกเพื่อนมาช่วยงานว่ามีจำนวนเท่าไหร่ กี่คน คุณควรรู้ก่อนคร่าวๆว่า มีงานในส่วนไหนที่ต้องการให้เพื่อนคุณช่วยบ้าง บ่าวสาวบางคู่อยากจัดงานแต่งงานที่ใหญ่ และคิดว่าอยากมีเพื่อนๆเยอะๆ มาช่วยงานแต่ง แต่ก่อนที่คุณจะยกหูโทรศัพท์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคุณให้มาช่วยงานแต่งงาน คิดให้ดีก่อนว่าจะให้เพื่อนมาช่วยอะไร คุณคงไม่อยากเจอเพื่อนคุณมาทะเลาะ หรือมาเขม่นกันในงานแต่งของคุณ เพราะว่าคุณเรียกให้เพื่อนมามากเกินไป แต่งานที่มีให้ช่วยนั้นมีแต่นิดหน่อยเท่านั้น เพื่อนของคุณอาจจะสับสนไม่รู้ว่าใครต้องทำหน้าที่อะไร อาจเกิดการแย่งงานกันก็ได้นะคะ

8. เริ่มมองหาสถานที่จัดงาน คุณควรเริ่มหาสถานที่ที่คุณจะจัดงานแต่งตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะมีหลายที่หลายโรงแรมที่เป็นที่นิยมมีจองล่วงหน้าเป็นปี ขอให้ทราบไว้ว่าฤกษ์แต่งงานที่ดี ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงวันเดียวกันหลายๆคู่ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ book สถานที่ไว้ล่วงหน้าซึ่งจะทำให้คุณได้สถานที่แต่งงานในฝันของคุณ ถ้าคุณได้สถานที่แล้วคุณก็สามารถ Plan เรื่องอื่นๆต่อไปได้ง่าย และจะได้นำเวลาไปจัดการกับเรื่องอื่นๆ อีกหลายๆ เรื่องสำหรับงานแต่งของคุณ

9. หาข้อมูลคู่แต่งงานหลายคู่ที่จัดงานแต่งงานออกมาได้ดี แน่นอนพวกเค้าไม่ได้วางแผนงานแต่งงานกันเองเพียงแค่ 2 คน พวกเค้าหาตัวช่วย ซึ่งอาจจะมาจากการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลจากหนังสือนิตยาสาร หรือสอบถามเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์

- จ้าง wedding planner หรือบริษัทที่ให้คำปรึกษาเรื่องแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณไม่มีเวลาหรือยุ่งอยู่เสมอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคุณให้มีงานแต่งงานตามแบบในฝันคุณได้ และยังช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในบางเรื่องได้อีกด้วย

- ศึกษาข้อมูลจะ website แต่งงานคุณสามารถอ่านจากกระทู้เพื่อได้ศึกษาจากผู้มีประสบการณ์ได้ หรือว่าถ้าหากมีคำถามคุณก็สามารถ post ในกระทู้ตาม web แต่งงานได้อีก กระทู้พวกนี้ก็จะมีผู้ที่กำลังงานแผนงานแต่งเหมือนคุณ หรือคนที่มีประสบการณ์มาก่อนมาตอบคำถามให้คุณได้

- ใช้ checklist ที่เป็น worksheet ที่จะช่วยในการวางแผนงานแต่งของคุณ พวก worksheet นี้คุณหา download ฟรีได้ จาก website แต่งงานได้ทั่วๆไป

- วิธีง่ายๆอีกวิธีก็คือ ซื้อนิตยสารแต่งงานมาอ่าน ถ้าอยากประหยัดคุณก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกรายปีของนิตยสาร ทางบริษัทเค้าก็จะจัดส่งมาให้คุณที่บ้าน ลองไปเดินงานพวก wedding festival จะมีซุ้มรับสมัครหนังสือนิตยสาร ซึ่งคุณจะได้ราคาถูกกว่าปกติ จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อีกเล็กน้อย นิตยาสารแต่งงานที่เด่นๆในเมืองไทย เช่น Wedding WE และ IDO เป็นต้น


credit: http://www.siamviva.com
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...