(Easy ways not to argue with your couples)
เคยสงสัยหรือไม่คะว่า..ทำไมคุณถึงมีเรื่องทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ หรือทำไมเราถึงต้องทะเลาะกับแฟนเป็นประจำไม่หวีดหวานเหมือนตอนรักกันใหม่ๆ เราลองมาดูตัวเองก่อนดีกว่าว่าตอนนี้เราคิดหรือทำเหมือนตอนคบกันแรกๆหรือเปล่า ถึงทำให้ความรักของเรามีเรื่องหยุมหยิมมาคอยกวนใจให้มีอันต้องทะเลาะกับแฟนตลอด จะได้มองปัญหาอย่างเข้าใจและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง
เราลองมาดูต้นเหตุของปัญหาและวิธีการแก้ไข กับปัญหาที่มักเกินขึ้นระหว่างคู่รักบ่อยครั้งกันค่ะ
# ปัญหา : “อะไรก็ได้”
เรื่องทะเลาะกับแฟนมีเป็นล้านๆ แต่หลายคนทะเลาะกับแฟนด้วยเรื่องน้อยนิด ที่เราเรียกโรคนี้ว่า “อะไรก็ได้” คำพูดสี่พยางค์ที่เล่นเอาหลายคนหงุดหงิด หัวฟัดหัวเหวี่ยงมามาก เริ่มต้นง่ายๆแค่ใครคนหนึ่งถามว่า “กินอะไรดีค่ะ” อีกคนก็ตอบว่า “อะไรก็ได้” พอเราบอกความต้องการ “งั้นอาหารญี่ปุ่นแล้วกัน” อีกแล้ว เพิ่งกินมาเมื่อวานเอง” “งั้นกินง่ายๆ ก๋วยเตี๋ยวไหม” “ ไม่อยากกินอะไรร้อน” “แล้วอะไรละไม่ร้อน” “ก็อะไรก็ได้” บทสนทนาไม่รู้จบแบบนี้ มักจบลงด้วยอารมณ์เสมอ บรรดาคุณพี่มากทั้งหลายคะ คำว่า “อะไรก็ได้” อาจจะฟังดูเป็นคำพูดที่ง่ายและดูเอาอกเอาใจผู้หญิงอย่างเรา แต่ขณะเดียวกันก็ฟังดูเหมือนว่าคุณพี่ไม่คิดอะไรเอาเสียเลย
การแก้ไข : ลองไม่ใช่แค่ “อะไรก็ได้”
วิธีแก้โรค “อะไรก็ได้” ก็คือ ลองให้อีกฝ่ายพูดให้แคบอีกหน่อย พยายามถามความต้องการให้ชัดเจน เช่น อะไรก็ได้ที่เผ็ดๆ ร้อนๆ ถึงจะไม่ตรงประเด็นนัก แต่บางทีก็ลดช่องงว่างของความคิดได้มาก และทำให้ดูมีตัวเลือกที่ชัดเจนขึ้น
# ปัญหา : “ลืม”
สารพัดความลืม เป็นชนวนจุดเรื่องทะเลาะกับแฟนทั้งนั้น ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างลืมโทรหา ลืมบีบีมาบอกว่า Good Night หรือเลยไปถึงเรื่องสำคัญๆ อย่างลืมวันเกิด ลืมวันวาเลนไทน์ โอ้โหไม่มีทางรับได้เลยเด็ดขาด หลายคนขอสับแหลกกับความลืมและจัดปฏิบัติการรื้อฟื้น และทบทวนความทรงจำกับแฟนตัวเองอย่างสุดขีด หลายคนยังให้ค่าคำว่า “ลืม” เท่ากับความหมายว่า “ไม่ให้ความสำคัญ” จน “ลืม” นึกไปเสียสนิทว่าคนเราให้ความสำคัญในเรื่องแต่ละเรื่อง ในสิ่งแต่ละสิ่ง และวันแต่ละวันไม่เหมือนกัน แล้วแค่ลืม ทำไมจึงกลายเป็นเรื่องทะเลาะกันใหญ่กัน
การแก้ไข : “ลืม” เรื่องเล็กที่ต้องรู้จักความพอดี อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่
ไม่ได้พยายามจะเข้าข้างคนขี้ลืมหรอกนะ แต่บางครั้งนิสัยหลงๆลืมๆก็เกิดขึ้นได้กับทุกคน บางครั้งเรื่องลืมๆ เป็นเรื่องเล็กน้อยมากก็ไม่ควรเอามาเป็นเรื่องราวใหญ่โต พอดีๆ กับเรื่องที่เขาหรือเราลืม ให้อภัยกัน เข้าใจกันหน่อยน่าจะดีกว่า แล้วแค่เขาลืมวันเกิดเรา ก็ยังดีกว่าเขาลืมเราแล้วไปมีคนอื่นนะ
# ปัญหา : “แต่งตัวอะไรของเธอ”
บางคนโดนแฟนว่าตอนแต่งตัวไปเจอกันยังไม่เท่าไหร่ มีอีกหลายคนโดนตามไปว่าถึงในเฟสบุ๊ค ในหน้าวอลล์ ว่าแต่งตัวอะไรถ่ายรูป โถๆๆๆ คบกันแล้วจะต้องแต่งตัวกันแบบไหนถึงจะถูกใจเนี่ย เรื่องการแต่งตัวเป็นเรื่องของรสนิยมล้วนๆ แล้วรสนิยมก็ไม่สามารถวัดออกมาเป็นค่า เป็นคะแนนได้ เรื่องการแต่งตัวเลยทำให้เกิดการทะเลาะกับแฟนได้ง่าย ง่ายเอามากๆ โดยเฉพาะผู้หญิงเราบางวันอยากแต่งตัวเปรี้ยวๆ ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นบ้าง แต่ก็จะโดนผู้ชายหาว่า “แต่งตัวอะไร โป๊มาก ดูแย๊แย่” หรือบางทีเราเห็นแฟนเราใส่กางเกงขาเดป รัดเป้า รัดน่องขาโตๆ สุดฤทธิ์ ก็จะรู้สึกว่า “แฟชั่นอะไรของเธอย่ะ ฉันขอร้องจริงๆ ช่วยดูตัวเองด้วยเถอะ”
การแก้ไข : คิดใหม่ว่า แต่งตัวไม่ดี หรือแต่งตัวไม่ถูกใจ
แต่งตัวดีและแต่งตัวถูกใจ เป็นคนละเรื่องกัน บางทีเราเองอาจจะต้องถอยมามองตัวเองก่อนว่า เราเอาความรู้สึกไหนตัดสิน ถ้าเราเอาความรู้สึกเราล้วนๆ ก็เป็นความเห็นแก่ตัวของเราแน่นอน รักกัน ต้องเคารพกันและกันน่าจะดีกว่าอย่าเอาเรื่องอารมณ์ส่วนตัวมาทะเลาะกับแฟนดีกว่านะคะ
# ปัญหา : “ปัญหาสามัญประจำบ้าน”
เรื่องทะเลาะกับแฟนคลาสสิกสุดๆ ของความรัก ที่เป็นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด เรื่อยมาจนถึงพ่อกับแม่ของเราก็คือเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นไม่ยอมยกฝาชักโครก หวีผมแล้วไม่เก็บเศษผม วางของเรี่ยราด วางของไม่เป็นที่ ทิ้งเศษอาหารลงอ่างล้างจาน กินน้ำเย็นแล้วไม่ใช้ที่รองแก้ว ฯลฯ โอ๊ยสารพัดเรื่องราวจุ๊กจิ๊ก ที่ต้องขอบ่น บ่น บ่น แรกๆ เริ่มต้นรักก็จัดการให้ได้นะ แต่ผ่านๆป ทนไม่ไหวแล้วโว้ย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกบ้านและสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน หลายคนบ่นและหงุดหงิด ทะเลาะกับแฟนเรี่ยราดกับเรื่องพวกนี้บ่อยครั้ง จนเลิกกันไปเลยก็มี
การแก้ไข : ทำไม่ได้ ก็จัดการให้ซะที
เรื่องแบบนี้ บ่นไปก็เหนื่อยเปล่า ถ้าเรารักเขา และอยากดูแลเขาจริงๆ ก็ทำให้เขาไปเลย แล้วเราจะไม่สงสัยเรื่องราวที่ทำให้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งถ้าเราเอาแต่บ่น ต่อไปอีกคนก็ต้องเบื่อ พอเบื่อหนักเข้า ก็เข้าสู่โหมดรำคาญ แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นเรื่องทะเลาะกับแฟนวุ่นวายเยอะแยะ
# ปัญหา : “ผมอยากให้คุณสวยเหมือน แอฟ ทักษอร ฉันอยากให้เธอเหมือนพี่เคน ธีรเดช”
เมื่อก่อนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกอาจจะจำกัดอยู่แค่เรื่องอ้วน ผอม มีกล้าม ไม่มีกล้าม แต่ไม่รู้เพราะว่าตอนนี้มีเทรนด์ศัลยกรรมฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองหรือยังไง บรรดาสาวๆ หนุ่มๆ ทั้งหลายเลยอยากเห็นแฟนตัวเองเป็นเหมือนดาราผู้หญิงบางคนถึงกับออกเงินให้ผู้หญิงไปทำจมูก ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นกลัวหมอมาก ผู้หญิงบางคนก็อยากให้ผู้ชายดูเซอร์ ด้วยการขอให้ไว้หนวดเครา มีผมยาวๆ ทั้งๆที่เขาคนนั้นรักความสะอาดแบบสุดๆ เอากันเข้าไป หน้าใคร จมูกใคร ผมใคร ทำไม๊ ทำไมถึงไม่จัดการกันเองคะ แล้วเรื่องรูปลักษณ์นี่พูดกันยากจริงๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนที่อยากเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์แฟนตัวเองนั้น จุดเริ่มต้นของความรักอยู่ตรงไหน
การแก้ไข : เลิกหมกมุ่น แล้วย้อนกลับไปความรู้สึกแรก
คนรักแฟนก็อยากเห็นแฟนตัวเองดูดี ดูสวย สง่าในสายตาเรา และสายตาคนอื่นทั้งนั้น แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าเราจะเอาความคิดเราไปใส่ความคิดคนอื่นได้ เราต้องถามตัวเองให้ดีว่า เรารักเขาที่เป็นแบบเขาหรือเป็นแบบไหน และยังจำความรู้สึกแรกที่ชอบเขาได้หรือเปล่า การทบทวนแบบนี้จะทำให้เราเลิกหมกมุ่นกับรูปลักษณ์ไปโดยปริยาย
# ปัญหา : “ทำไมทำช้าจัง”
ทะเลาะกับแฟนเรื่องรอๆ เพราะอะไรรอบๆตัวในทุกวันนี้รวดเร็ว กระชับฉับไวไปหมด คนเราก็เลยเริ่มไม่รู้จักรอ ความใจร้อนของคนทุกวันนี้เลยเกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้น แต่ขอบอกไว้ก่อนนอกจากจะรอกันได้ยากแล้ว คนเรายังมี สปีดไม่เท่ากันอีก ใครคนไหนใจร้อน ก็จะรู้สึกว่าคนที่คบอยู่ช้าไปหมดทุกเรื่อง เช่น โทรไปหาเขา รอสาย ฟังสัญญาณ “ติ๊ด” ไม่ถึง 5 ครั้ง เขาคนนั้นไม่ยอมรับ ก็หงุดหงิดขึ้นมาแล้วหาเรื่องทะเลาะกับแฟนซะแล้ว หรือนัดเขาไว้ แค่เขามาสายสามนาทีก็หงุดหงิดอารมณ์เสีย ทะเลาะกับแฟนเป็นเรื่องราวใหญ่โต บางคนหนักมาก ฝากเขาซื้ออะไร ทำอะไรให้ ก็จะเอาให้ได้ทันที ตายๆๆ คนนะคะไม่ใช่พิซซ่าเดลิเวอรี่ ขนาดพิซซ่ายังต้องรอ 15 นาทีเลย
การแก้ไข : รอให้เป็นและเร็วให้เป็น
ยากจริงๆ สำหรับการทำความเข้าใจและให้เหตุผลเรื่องนี้ แต่ทั้งนี้แล้วทุกอย่างจะวนกลับมาที่การสำรวจตัวเอง เราใจร้อนไปหรือเปล่า เราไม่ใส่ใจ ปล่อยปละละเลยจนทำให้ช้าหรือเปล่า สำรวจตัวเอง และทำความเข้าใจตัวเองก่อน จากนั้นก็ทำความเข้าใจ อย่าปล่อยให้แค่เรื่องเร็วช้า มาทำให้งอนและทะเลาะกัน
ปัญหา : “เพื่อนแน่หรอ เพื่อนแน่ๆนะ”
เรื่องสุดท้ายที่ชวนทะเลาะกับแฟนและแตกหักกันได้ก็คือเรื่อง “แฟนของเราสนิทกับเพื่อนคนนั้นจนน่าสงสัย” เพื่อนคนหนึ่งของเราที่ตอนนี้เป็นดาราดาวรุ่งที่ดังเอามากๆ เคยโดนต่อยจมูกแตก เย็บสิบกว่าเข็มมาแล้ว เพราะบังเอิญไปเดินกับเพื่อนสนิทผู้หญิงคนหนึ่ง จนแฟนเพื่อนผู้หญิงคนนั้นเข้าใจผิด คิดว่าเพื่อนดาราของเรามาแย่ง ก็เลยโดนต่อยเข้าเต็มๆ บทสรุปก็คือ ผู้หญิงเลิกกับแฟน แถมเพื่อนดาราของเราก็เจ็บตัวฟรี เฮ้อ! เรื่องหึงหวงเนี่ยพูดกันยากจริงๆ จะบอกให้ฝึกไว้ใจกันง่ายๆ แต่ทำได้ยากมากๆ มีหนักกว่านั้น ก็คือเพื่อนผู้ชายของเราบางคนไม่ยอมให้พวกเก้งกวางไปไหนมาไหน หรือแตะต้องแฟนของเขาเลย เพราะกลัวว่าเก้งกวางจะกลับใจลุกขึ้นมาทำอะไรแฟน โธ่คุณผู้ชายขา การเป็นเก้งกวางเนี่ยไม่ได้ไปซื้อตามตลาดมาถึงเป็นนะคะ ผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น ไม่รู้จะคิดมากทำไม
การแก้ไข : ทุกคนมีเพื่อนได้และมีเพื่อนต่างเพศได้
“คนเราไม่คบเพศเดียวกันเสมอไป” นี่คือความจริงที่คนมีแฟนต้องรู้เอาไว้ เราต้องปล่อยให้แฟนได้มีอิสระ ได้ใช้ชีวิตในแบบของเขาและสุดท้ายบทสรุปของปัญหานี้ ไม่ว่าจะยังไงก็จะวนกลับไปที่ความไว้เนื้อเชื่อใจเหมือนเดิมนั้นแหละ รักกันต้องเชื่อใจกัน และแยกแยะผิดชอบถูกผิดให้ได้
credit: Cleo ฉบับเดือนพฤษภาคม 2554