Wednesday, November 30, 2011

10 ไอเดียเก๋ ป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน ...ที่คุณทำเองได้ ง่ายนิดเดียว (Wedding Table Card Ideas)

"ป้ายตั้งโต๊ะ" เป็นส่วนประกอบในงานแต่งงานอีกส่วนหนึ่งที่คู่บ่าว-สาวไม่ควรมองข้าม เนื่องจากป้ายตั้งโต๊ะนี้จะตั้งอยู่บนโต๊ะของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานทุกท่าน และเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับคนที่มาร่วมงานมากที่สุด

ฉะนั้นป้ายตั้งโต๊ะที่ใส่ไอเดียหรือธีมลงไปนี้ จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเรื่องราว ความประทับใจ ความใส่ใจ และคำขอบคุณต่างๆ ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ส่งผ่านไปยังแขกเหรื่อที่มาในงานได้มากที่สุดทางหนึ่ง

และเพื่อให้งานแต่งงานของคุณออกมาครบถ้วนตามคอนเซ็ป (Concept) หรือ ธีม (Theme) ที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เราจึงมีไอเดียป้ายตั้งโต๊ะที่ทั้งเก๋ ทั้งทันสมัย และมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังสามารถทำเองได้ด้วย มานำเสนอเพื่อเป็นไอเดียสำหรับคู่บ่าว-สาว ค่ะ


10 ไอเดีย ป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน ...ที่คุณทำเองได้ ง่ายนิดเดียว

1. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "คู่รักนักเดินทาง"

คู่บ่าวสาวคู่ไหนที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ มีเวลาเมื่อไหร่เป็นอันต้องจูงมือกันออกเดินทางไปเที่ยว หรือไปผจญภัยในสถานที่ต่างๆอยู่เสมอ ธีมของงานแต่งงานแบบนักเดินทางท่องเที่ยว หรือ Travel Theme นี้เหมาะสมกับคุณที่สุด

Travel Theme เป็นธีมในการจัดงาน อาจจัดทำป้ายตั้งโต๊ะด้วย Postcard จากหลากหลายสถานที่ ที่ทั้งคู่มีโอกาสได้เดินทางไปด้วยกัน โดยบันทึกเกี่ยวกับความทรงจำหรือความประทับใจเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ลงไปใน postcard ด้วย เพียงเท่านี้ก็ทำให้งานเลี้ยงของคุณสนุกสนาน และน่าติดตามมิใช่น้อยค่ะ




2. ไอเดียป้ายตั้
งโต๊ะงานแต่งงาน "สัตว์เลี้ยงแสนรัก"

การ์ดนี้สำหรับคู่รักที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักไว้ และอยากให้ลูกๆ มีส่วนร่วมในงานวันสำคัญของคุณ ด้วยการถ่ายรูปลูกรักในอิริยาบทต่างๆ เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของป้ายตั้งโต๊ะ ก็เป็นไอเดียีที่น่ารักมากๆ เลยล่ะค่ะ







3. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "คู่รั
กย้อนยุค"

ไอเดียเก๋กู๊ดนี้ เหมาะกับคู่รักที่หลงรักกลิ่นอายในยุค 60's โดยเลือกดารา นักร้อง ทั้งไทยและเทศ ที่ดังในยุคนั้นมาเป็นป้ายตั้งโต๊ะ พร้อมกำหนด Theme ให้ย้อนยุคด้วย เพียงเท่านี้งานของคุณก็เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแล้วล่ะค่ะ





4. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "นักเล่าเรื่อง"


เลือกรูปในช่วงวัยต่างๆ ของคู่บ่าว-สาว มาจัดวางกับภาพกราฟิก (Graphic) เก๋ๆ เป็นป้ายตั้งโต๊ะ รูปเจ้าสาวสำหรับแขกฝั่งเจ้าสาว รูปเจ้าบ่าวสำหรับแขกฝั่งเจ้าบ่าว ไม่เพียงจะได้ป้ายตั้งโต๊ะที่เก๋ไม่ซ้ำใคร ยังสามารถเพิ่มไปเดีย ด้วยการใช้บอกเล่าความเป็นมาของคู่บ่าว-สาว หรือข้อคิด คำคมหวานๆ ใส่เพิ่มเติมเข้าไปได้อีกด้วยค่ะ และจะยิ่งคลาสสิคมากขึ้นถ้ารูปที่เลือกมาใช้ทั้งหมดเป็นรูปขาว-ดำ




5. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "ภาพบันทึกความทรงจำ"


ออกแบบป้ายตั้งโต๊ะโดยใช้ภาพถ่ายที่เป็นความทรงจำดีๆ ของคุณร่วมกัน เช่น ภาพถ่ายของสถานที่ ที่คุณได้พบกันครั้งแรก หรือภาพถ่ายคู่ ที่คุณถ่ายด้วยกันครั้งแรก เป็นต้น มาออกแบบให้เก๋ด้วยตัวอักษร (Font) และโทนสีที่ใช้ ให้ป้ายตั้งโต๊ะร่วมบอกเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ของคุณร่วมกัน




6. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "แนะนำสถานที่สำคัญบ้านเกิด"


ขอแนะนำป้ายตั้งโต๊ะแบบแนะนำสถานที่สำคัญ ไอเดียนี้อาจจะเหมาะกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เป็นคนต่างประเทศ หรือต่างถิ่นกัน โดยใช้ภาพถ่ายของสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศหรือของเมืองเกิดของแต่ละคน นอกจากไอเดียดีแล้ว ยังเป็นการแนะนำประเทศหรือเมืองนั้นๆ ให้แขกรู้จักด้วยนะคะ





7. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "หน้ากากแฟนซี"


ไอเดียนี้คือนำหน้ากากเก๋ๆมาเป็นป้ายตั้งโต๊ะ เหมาะกับงานเลี้ยงแบบแฟนซี จะทำเองก็ได้ หรือหาซื้อหน้ากากสำเร็จรูปมาตกแต่งให้เข้ากับ Theme งานของคุณเองก็ได้เช่นกันค่ะ







8. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "กระดานดำ หรือ กระดานชนวน"


เหมาะสำหรับคู่รักที่เป็นครูอาจารย์ หรือเปิดร้านอาหารที่ป้ายเมนูร้านทำด้วยกระดานดำหรือกระดานชนวน ก็ปรับขนาดกระดานให้เล็กลง แล้วใช้ชอล์คเขียนชื่อโต๊ะ เสร็จงานแล้วยังเก็บไว้ใช้ได้อีกนะคะ






9. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "ภาพจากงานหมั้น"


หากคุณจัดงานหมั้นและงานแต่งงานคนละวันกัน แต่แขกบางส่วนที่มางานเลี้ยงแต่งงาน อาจไม่ได้มางานหมั้น ถ้าคุณต้องการให้แขกได้มีส่วนร่วมในวันสำคัญของคุณ ก็อาจนำภาพจากงานหมั้นมาทำเป็นป้ายตั้งโต๊ะ เพื่อให้แขกได้ซึมซับบรรยากาศงานหมั้นของคุณด้วย เลือกรูปสวยๆ วางบนกระดาษสีพื้นแล้วเข้ามุมสีทอง แค่นี้ก็หรูสุดบรรยายแล้วค่ะ




10. ไอเดียป้ายตั้งโต๊ะงานแต่งงาน "การ์ดแต่งงาน"


สำหรับคู่รักที่อาจจะมีเวลาน้อย ไม่สามารถจัดเตรียมป้ายตั้งโต๊ะได้ในเวลาที่จำกัด การจัดทำป้ายตั้งโต๊ะ โดยใช้กระดาษและลวดลายเดียวกันกับการ์ดแต่งงาน ก็เป็นอีกไอเดียหนึ่ง ที่จะทำให้งานแต่งงานมีคอนเซ็ปไปในทิศทางเดียวกัน แม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็เก๋ไม่น้อยค่ะ





credit: http://www.readyviva.com/

Monday, November 28, 2011

การจัดดอกไม้ในงานแต่งงาน (Wedding Flowers)

ดอกไม้ในงานแต่งงาน เปรียบได้กับเครื่องประดับชิ้นสวยของงาน ที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้ต้อนรับสร้างความประทับใจให้กับแขกเหรื่อ และยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ความทรงจำที่เก็บไว้ในภาพถ่ายงดงาม

นักจัดดอกไม้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า การจัดดอกไม้ในงานแต่งงานไม่ได้ยึดถือเรื่องเทรนด์เป็นสำคัญ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของดอกไม้และความชอบของคู่บ่าว-สาวมากกว่า ดังนั้นก่อนจะไปพบนักจัดดอกไม้ คุณควรทำการบ้านโดยการพูดคุยตกลงกันว่าด้วยประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้

1. ต้องมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในใจ ว่าจะจัดงานแต่งงานแบบไหน ชอบดอกไม้โทนสีอะไร สไตล์ไหน ทุกวันนี้คนนิยมจัดดอกไม้โทนสีขาว-เขียว เพราะเป็นสีที่ปลอดภัยหายห่วง ดูเรียบร้อยและโก้หรู แต่เวลาถ่ายรูปออกมาสีอาจจืดชืดไป ถ้าคุณชอบสีสันสดใส แนะนำให้ลองจัดธีมสีแดง-ชมพู หรือสีเหลือง-ส้ม โทนสีเหล่านี้มีดอกไม้ให้เลือกใช้ได้มากมายหลายชนิด

เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้ว อย่าลืมถามความเห็นชอบของครอบครัวด้วย โดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่ช่วยซัพพอร์ทงบประมาณการจัดงานแต่งงานให้คุณ หากขัดแย้งกันควรพูดคุยให้เข้าใจ ดีกว่าต้องมารื้อหน้างาน เพราะจะเป็นเรื่องวุ่นวายมาก

2. หาสถานที่จัดงานให้เรียบร้อยเสียก่อน คอนเซ็ปต์ของดอกไม้ที่คุณคิดไว้ควรไปกันได้กับสไตล์ของห้องที่จะจัดงาน เช่น ถ้าห้องหรูหรา ใหญ่โต แต่อยากจัดดอกไม้สไตล์มินิมัลลิสม์คงไม่เหมาะ เพราะดอกไม้จะจมหายไปทันที

3. ตั้งงบประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ความสำคัญกับดอกไม้ในงานแต่งงานมากแค่ไหน นักจัดดอกไม้ส่วนใหญ่ชอบให้ลูกค้าบอกงบประมาณในใจมาก่อน เพราะจะทำงานได้ง่ายขึ้น รู้ว่าควรจะครีเอทมากแค่ไหน เพราะถ้าให้คิดไปก่อนโดยไม่บอกงบประมาณ บางคนอาจมีไอเดียบรรเจิด อยากสร้างสรรค์งานของคุณให้สวยที่สุด แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะติดเรื่องงบประมาณ ทำให้เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย

เมื่อทราบงบประมาณคร่าวๆ นักจัดดอกไม้จะดีไซน์การจัดดอกไม้เลือกชนิดของดอกไม้ที่จะใช้ แล้วกลับมาคุยกันอีกครั้ง หากคุณชอบใจและตกลงราคากันได้ จะต้องเตรียมสตางค์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานล่วงหน้าด้วย จำนวนเงินจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่จะตกลงกัน

4. ควรมีเวลาเตรียมงานล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน เพราะนักจัดดอกไม้จะต้องไปดูขนาดห้องที่จะจัดงานเพื่อออกแบบและคิดคำนวนว่า จะต้องใช้ดอกไม้มากน้อยแค่ไหนถึงกำลังสวย แล้วจึงสั่งดอกไม้ ดอกไม้บางชนิดต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แล้วยังต้องเตรียมงานโครงสร้างต่างๆ เช่น โครงเหล็กซุ้มประตู ทำ backdrop หรือฉากหลังไว้สำหรับถ่ายรูป


credit: http://www.readyviva.com/

Thursday, November 24, 2011

งานพิธีหมั้นสุดหรูอลังการของ "จอย วราลักษณ์ & เอริก" เศรษฐีเจ้าของฟิตเนส แคลิฟอร์เนียว้าว!

(Joy Waraluk & Aric Engagement)

เข้าพิิธีหมั้นสุดอลังการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา สำหรับนางแบบสาว "จอย วราลักษณ์ วาณิชย์กุล" กับหนุ่มใหญ่วัย 55 ปี อย่าง "เอริค เลอวีน" เศรษฐีเจ้าของฟิตเนสชื่อดังอย่าง แคลิฟอร์เนียว้าว!

ต้องบอกว่าเป็นงานหมั้นที่เป็นงานช้างจริงๆ เพราะเจ้าบ่าวหอบสินสอดมาขอสาวจอยมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาททีเดียว บรรยากาศในงานมีเพื่อนพ้องวงการนางแบบร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้เรายังได้เห็นความหล่อเหลาของลูกชายสุดที่รัก น้องกัน คริษฐ์ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา อีกด้วย

งานพิธีหมั้นสุดหรูอลังการของ "จอย วราลักษณ์" กับ "เอริก" ผู้ก่อตั้งแคลิฟอร์เนีย ว้าว ฟิตเนส

วันที่ 18 พ.ย. 2554 นางแบบระดับท็อป "จอย-วราลักษณ์ วาณิชย์กุล" วัย 40 ปี และ "เอริก เลอวีน" หนุ่มใหญ่สัญชาติแคนาดา วัย 55 ปี ผู้ก่อตั้งแคลิฟอร์เนีย ว้าว ฟิตเนส ได้เข้าพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการตามประเพณีไทยแท้ ที่ห้องออเธอร์เลานจ์ โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพ หลังจากทดลองอยู่กินกันมา 7 ปีเต็ม

งานนี้เจ้าบ่าวแต่งชุดไทยนุ่งโจงกระเบน เดินนำขบวนขันหมากส่งเสียงร้องโห่โหฮิ้ว และแห่กลองยาว เพื่อเข้ามารับตัวคู่หมั้นสาว ที่แต่งชุดไทยจักรีประยุกต์สีทองอร่าม (ชุดสวยมาก) ฝีมือออกแบบของ "เจี๊ยบ-พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์" รออยู่ที่ห้องออเธอร์เลานจ์ โดยมีผองเพื่อนนางแบบ, ช่างภาพ, สไตลิสต์ และคนดังๆในแวดวงแฟชั่น ที่พร้อมใจกันแต่งชุดไทยแบบจัดเต็ม มายืนกั้นประตูเงินประตูทองเป็นที่สนุกสนาน

มีหนุ่มน้อยรูปหล่อ "น้องคริษฐ์ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา" ลูกชายวัย 15 ปี ของ "จอย-วราลักษณ์" รับอาสาจูงมือคุณแม่มาส่งตัวให้เจ้าบ่าว งานนี้ฝ่ายเจ้าสาวถึงกับน้ำตาซึมด้วยความปลื้มอกปลื้มใจ และทำเอาแขกเหรื่อพลอยน้ำตารินไปด้วย

ไฮไลต์ของงานหมั้นครั้งนี้ยังอยู่ที่แหวนหมั้นเพชรเม็ดใหญ่ ขนาด 24 กะรัต มูลค่าเฉียด 100 ล้านบาท (Oh My God!) ซึ่งฝ่ายชายเล่าว่า ใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะหาเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามไร้ที่ติขนาดนี้ได้ โชคดีที่เพื่อนสนิทไปได้เพชรเม็ดนี้มาจากแอฟริกา เป็นเพชรที่สวยที่สุด เจิดจรัสที่สุด น้ำงามที่สุด เปล่งประกายที่สุด และทรงพลังที่สุด สมกับที่เป็นแหวนหมั้นสำหรับผู้หญิงที่เขารักอย่างหมดหัวใจ และขอตั้งชื่อแหวนวงนี้ว่า JOY ตามชื่อของ "จอย"

นอกจากนี้ เจ้าบ่าวยังแอบกระซิบว่า ได้เตรียมเซอร์ไพรส์จะคุกเข่าขอคู่หมั้นสาวแต่งงานอย่างสุดโรแมนติก ระหว่างที่ทั้งคู่เดินทางไปซ้อมฮันนีมูนที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ด้วย

สำหรับงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ ทั้งคู่วางแผนไว้ว่า จะเดินทางไปจัดงานวิวาห์ตามประเพณีอินเดียโบราณ ที่เมืองริชิเกช รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย ในวันที่ 2 ธ.ค. 2011 นี้ จากนั้นวันที่ 3 ธ.ค.2011 จึงปิดโรงแรมหรูระดับห้าดาว บนเทือกเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย เพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองสมรส

สำหรับเพื่อนๆและญาติสนิทในเมืองไทย ก็มีการเหมาเรือครุยส์สุดหรูล่องไปในทะเลภูเก็ตไว้ให้ได้เฮฮาปาร์ตี้อย่างเต็มพิกัด ในวันที่ 10 ธ.ค.2011นี้ ส่วนเรือนหอเตรียมสร้างใหม่บนเกาะภูเก็ต ครอบคลุมพื้นที่ 15 ไร่ คาดว่าจะสามารถเข้าไปอยู่ได้ราวปีหน้า

เรารวบรวมนำบรรยากาศงานพิธีหมั้นของทั้งคู่มาให้ชมกัน และก็ขอแสดงความยินดี กับทั้งคู่ด้วยนะคะ

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก

Joy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริกJoy & Aric Engagement - พิธีหมั้นจอยและเอริก


credit: http://www.thairath.co.th

Wednesday, November 23, 2011

ธรรมเนียมแบบแปลกๆ ในการแต่งงาน ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน (Unusual marriage customs)

เรื่องแปลกมักเกิดขึ้นเสมอในโลกของเรา ไม่เว้นแม้แต่เรื่องแต่งงาน ที่มีอะไรแปลกๆ มาให้เรารับทราบกัน จะมีอะไรแปลกบ้างไปลองดูค่ะ

ธรรมเนียมแบบแปลกๆ ในการแต่งงาน ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน


1. ห้ามบ่าวสาวเข้าห้องน้ำ 3 วัน

ท่าทางคู่รักจากหมู่บ้านทิดอง ในประเทศมาเลเซีย คงจะทุกข์ทรมานจากการอั้นฉี่อยู่ไม่น้อย เมื่อมีกฏห้ามบ่าวสาวเข้าห้องน้ำหลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานนาน 3 วัน!! โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน ทั้งคู่ต้องอยู่ร่วมกันในเรือนหอ พร้อมอาหารจำนวนหนึ่ง และน้ำอีกนิดหน่อย โดยมีญาติ ๆ เฝ้าคุมตลอด 72 ชั่วโมง เพื่อดูแลไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งลุกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งคนในหมู่บ้านนี้มีความเชื่อกันว่า หากคู่บ่าวสาวสามารถอดทนได้ไม่เข้าห้องน้ำเลยจนครบ 3 วัน แล้วล่ะก็ จะเป็นนิมิตรหมายอันดีว่า ชีวิตคู่จะดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นนั่นเอง

2. เจ้าบ่าวนักล่า

ในเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าทรูโร รัฐแมสซาซูเซตส์ ของอเมริกา หนุ่ม ๆ ที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว จะต้องกระทำภารกิจอันสำคัญ นั่นคือการถือปืนเข้าป่า ออกล่านกดำ 6 ตัว และอีกาอีก 3 ตัว ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ดีได้

3. ชายผู้มีความสามารถรอบด้าน

ฟังแล้วรู้สึกแสนจะพิลึกพิลั่น เมื่อเจ้าบ่าวจากหมู่บ้านอ็อบลอง รัฐอิลลินอยส์ อเมริกา จะต้องมีเซ็กส์กับเจ้าสาวไปพร้อม ๆ กับเล่นเกมออกล่าหรือว่าตกปลาในวันแต่งงานของตัวเอง ก็ไม่รู้ว่จะเป็นบทพิสูจน์ของอะไร หรืออาจจะต้องการดูว่าเจ้าบ่าวคนนี้มีคุณสมบัติครบพร้อมแบบมัลติสกิล ที่สามารถทำหลาย ๆ อย่างไปได้พร้อมกันได้หรือไม่

4. เจ้าสาวเท้าเงิน-ทอง

ธรรมเนียมปฏิบัติจากประเทศสวีเดนเชื่อกันว่า เจ้าสาวจะต้องใส่เหรียญทองที่ได้มาจากแม่ไว้ในรองเท้าข้างขวา และเหรียญเงินจากพ่อไว้ในรองเท้าข้างซ้าย และสวมรองเท้าคู่นั้นเข้าพิธีแต่งงาน นี่ดูไม่ใช่เรื่องน่ายุ่งยากลำบากใจเท่าไหร่ ตราบใดที่รองเท้าเจ้าสาวใส่สบาย ไม่คับ ไม่กัด (และอยางที่รู้ ๆ กันว่า รองเท้าสวย ๆ มักใส่ไม่ค่อยสบาย ถ้ารองเท้าคับอยู่แล้วจะให้เอาเหรียญใส่ลงไปด้วย เจ้าสาวคงมีเดินกะเผลกกันบ้างล่ะ)

5. โหวกเหวกในคืนเข้าหอ

มาดูธรรมเนียมแต่งงานจากเมืองน้ำหอมอย่างฝรั่งเศสกันบ้าง ที่นี่ไม่มีอะไรรุนแรง แค่ให้บรรดาครอบครัวและเพื่อน ๆ ของคู่บ่าวสาว ไปพร้อมกันที่หน้าห้องหอของคู่รักในคืนส่งตัว พร้อมตีหม้อและกระทะในมือให้โหวกเหวกน่าหนวกหูที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคู่บ่าวสาว (แม้จะแสนรำคาญ) ก็ต้องเปิดประตูออกมาต้อนรับ พร้อมกับนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ ในฐานะขอบคุณที่อุตส่าห์เหนื่อยมาแสดงความยินดีเสียงดัง ๆ ที่หน้าห้อง ก็ไม่แน่ใจว่านี่เป็นแค่ธรรมเนียมสนุก ๆ หรือว่าเป็นกุศโลบายการคุมกำเนิดของชาวเมืองน้ำหอมกันแน่นะ !?

6. ละเลงเละรับขวัญเจ้าสาว

เนเธอร์แลนด์แดนกังหัน มีธรรมเนียมรับขวัญเจ้าสาวในวันก่อนแต่งงาน โดยทำเซอร์ไพรส์โผล่ไปดึงตัวเธอมาแบบไม่ต้องบอกกล่าวกันล่วงหน้า จากนั้นบรรดาเพื่อน ๆ มือฉุดก็จะช่วยกันละเลงตัวเจ้าสาวด้วย ไข่ ซอสปรุงรส แป้ง ขนนก หรืออะไรก็ตามที่เหนียวหนืด และชวนแหวะ เมื่อว่าที่เจ้าสาวเละตุ้มเป๊ะได้อย่างใจแล้ว ก็จะแห่เธอไปรอบ ๆ เมือง ถือว่าเป็นการแสดงความยินดีอยางสุดซึ้งเลยล่ะ

7. คู่บ่าวสาวร่วมใจตัดฟืน

เจ้าบ่าวเจ้าสาวชาวเยอรมัน แต่งงานเสร็จแล้วก็ใช่ว่าจะไปมีความสุขกันได้ง่าย ๆ เมื่อทั้งคู่จะต้องไปปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่งร่วมกันก่อน นั่นก็คือการตัดฟืนนั่นเอง ตั้งแต่เลื่อยไม้ออกเป็นท่อนยาวพอเหมาะ และจามแบ่งออกเป็นซีกขนาดพอดี ๆ บางทีนี่อาจสอนให้คู่บ่าวสาวรู้จักแบ่งเบาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนกันชีวิตคู่ที่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปอีกยาวนาน หรือว่าอาจะเป็นกลเม็ดเด็ดพรายของโรงแรม ที่อยากจะมีฟืนใช้อย่างพอเพียงไปตลอดทั้งหน้าหนาวก็เป็นได้



credit: http://www.weddinghitz.com

Monday, November 21, 2011

เทรนด์ใหม่!! การแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว ปี 2012

(Wedding Decorated Nails for Bride 2012)

2011 bridal nails, the nails are one of the most important fashion today to look good, and since the wedding day you should look perfect from head to toe, the nails are not something that you should forget and can benefit greatly from decorated nails with great originality, style and beauty.

Wedding decorated nails 2011-2012 personally I think too nails removed prominence to the importance of hands on that day, but since in a matter of taste there is nothing written, many brides choose a different makeup for your nails on your big day. Perhaps the most traditional manicure for the bride is French, although in many occasions also opt for adding decorative elements, not only created designs from nail polish such as floral, but it also can make different scale from rhinestones or other.

This type of decoration on the nails usually do when these are gel, porcelain or other materials that form artificial nails, that is not usually done on real nails as each girl to be made ​​of materials strong could damage them. Also, if your dress has a snap or simply highlighting your hair touched also has a rhinestone flower or you can get something similar.

In these images we bring you guides for nails for the wedding day, very attractive options to nail another focus of all eyes, and something very simple now that are causing anger from past seasons are perfect.


เจ้าสาวในยุคปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับการตกแต่งเล็บให้สวยงามมากขึ้น การตกแต่งเล็บถือเป็นแฟชั่นและยังเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าชุดเจ้าสาว ร้องเท้า หรือเครื่องประดับต่างๆ ที่ถูกเลือกสรรมาใช้ในงานแต่งงานของคุณ ฉะนั้นเจ้าสาวไม่ควรละเลยความสวยงามของนิ้วมือและเล็บนะคะ เพราะแขกเหรื่อในงานส่วนใหญ่คงต้องคอยจ้องมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าสาวเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็จะเป็นโอกาสที่เจ้าสาวจะได้อวดนิ้วมือที่ถูกตกแต่งมาอย่างสวยงามให้แขกทั้งงานได้ชื่นชมด้วยค่ะ

ลักษณะหรือเทรนด์ของการตกแต่งเล็บเจ้าสาวในวันแต่งงานช่วงปี 2011-2012 จะมีการดีไซด์หรือใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในเล็บเพิ่มขึ้น ถ้าเจ้าสาวเล็บสั้นหรือเล็บไม่สวยก็สามารถต่อเล็บให้ยาวและสวยงามขึ้นได้ อาจแต่งด้วยการทาเล็บแบบฝรั่งเศส พร้อมประดับด้วยชุดตกแต่งสำหรับเล็บรูปดอกไม้หรืออื่นๆ หรือจะประดับด้วยเพชรเทียม พลอยเทียม ก็สามารถทำได้เต็มที่

แต่คุณเจ้าสาวควรระลึกไว้เสมอนะค่ะว่า สำหรับงานแต่งงานที่ค่อนข้างเป็นทางการ และมีผู้ใหญ่มาร่วมงานเยอะ การแต่งเล็บไม่ควรให้โดดเด่นจนเกินงาม ควรจะทำให้ไปในทิศทางเดียวกับชุดเจ้าสาว โดยเฉพาะสีของเล็บเจ้าสาว ทางที่ดีควรเป็นสีโทนธรรมชาติ เช่นขาว ครีม เนื้อ หรือสีเดียวกับชุด แต่เราสามารถทำให้สวยสะดุดตาได้ด้วยรูปร่าง ลักษณะ และของประดับตกแต่งบนเล็บค่ะ ส่วนถ้าเป็นงานแต่งงานที่ไม่เป็นทางการ เป็นงานที่เลี้ยงฉลองกันในหมู่เพื่อนฝูงแขกผู้ใหญ่มีน้อย เจ้าสาวก็สามารถแต่งเล็บได้เต็มที่ค่ะ เจ้าสาวบางท่านอาจจะเลือกที่จะทาสีเล็บหรือตกแต่งเล็บให้มีลักษณะที่แตกต่าง หรือตรงข้ามไปจากชุดเจ้าสาวเลยก็ได้

ยังไงลองมาดูแบบเล็บของเจ้าสาวที่กำลังอินเทรนด์ในยุคนี้กันค่ะ บางแบบอาจจะดูเยอะไปขอให้คุณเจ้าสาวลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride

การตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Brideการตกแต่งเล็บแต่งงานสำหรับเจ้าสาว - Wedding decorated nails for Bride



credit: http://www.nails-art-pictures.com

Tuesday, November 15, 2011

หลักง่ายๆในการทำ เอ็มวี (MV) งานแต่งงาน

บทความที่เขียนขึ้นเป็นเพียงแนวทางที่คิดว่าน่าจะเป็นเท่านั้น กับสิ่งที่ต้องรู้และต้องนำมาใช้ประกอบในการทำเอ็มวี นั่นก็คือ

หลักง่ายๆในการทำ เอ็มวีงานแต่งงาน (Shoot-It-Yourself for Wedding Video Guide)

1. คิดถึงวัตถุประสงค์ในการทำ
สำหรับครอบครัวที่มีชื่อเสียงเวลาจัดงานแต่ละครั้ง จะมีแขกมามากเกินกว่าที่จะเข้าไปอยู่ในงานพิธีได้ ก็เลยมีการใช้ทีวีวงจรปิดต่อเชื่อมจากภายในแยกออกมาสู่ภายนอก เพื่อให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ทราบความเคลื่อนไหวพร้อมไปด้วยกัน

ภายหลังวิธีนี้ก็ได้เลิกใช้ไป เนื่องจากสถานที่จำกัด , เครื่องมืออุปกรณ์ไม่พอ, และที่สำคัญราคาอาจแพงพอๆ กับการจัดงานซะอีก ก็เลยกลายเป็นที่มาของการตัดวิดีโอสรุปให้ชมในภายหลัง โดยอาจเพิ่มเทคนิค และเพลงเข้าไปเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ รวมถึงให้คนที่ไม่มางานจะได้ทราบความเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน

2. วัตถุดิบ
วัตถุดิบที่มีสำคัญไม่แพ้ข้อ 1 เช่น ถ่ายงานหมั้นเช้า (ซึ่งส่วนใหญ่อยากให้ทำเอ็มวีมาเปิดในงานเย็น เพราะช่วงเช้าบ่าวสาวอยากจัดเป็นงานภายในครอบครัวเท่านั้น) ในการทำเอ็มวี ต้องคำนึงถึงข้อนี้ให้มากๆว่า สิ่งที่เราได้ถ่ายไปแล้วเมื่อเช้า มีอะไรบ้าง พอที่จะนำมาตัดได้หรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่พอต้องเสริมเพิ่มเติม ก็รีบจัดทำซะตอนนั้น เช่น พิธีเช้า ขบวนขันหมาก, กั้นประตูก่อนเข้าอาจมีพิธีสู่ขอ, ทำพิธีหมั้นภายใน, พิธีทางสงฆ์, พิธีรดนำ้ , สวมมงคล , เจิมหน้าผาก , รับไหว้ , บ่าวสาวขอบคุณแขก ฯลฯ

บรรยากาศทั่วไป , ของชำร่วย, การ์ด , ของรับไหว้ สต๊อกทั่วๆไป หรืออาจขอภาพนิ่งบ่าวสาวเพิ่ม เริ่มตั้งแต่ตอนเด็กไล่มาจนทำงานแล้วมาเจอกันเที่ยวด้วยกัน เป็นการเพิ่มนำ้หนักความน่าดูให้กับเอ็มวีด้วย...( ถ้าบ่าวสาวไปถ่ายรูปเว็ดดิ้งมาแล้ว ให้นำภาพเหล่านั้นมาใช้ให้หมดเลย)

3. เรียบเรียงเรื่องราว
พยายามเรียงเรื่องราวไปมาตามเหตุการณ์ที่ควรจะเป็น เช่น พิธีเย็น เริ่มแรกบรรยากาศของงาน , คนมางาน , ถ่ายรูปหน้างาน , พูดบนเวที , ผู้ใหญ่อวยพร, สัมภาษณ์บ่าวสาว, ตัดเค้ก , มอบเค้กผู้ใหญ่, เดินขอบคุณแขก , รับแขกกลับ ฯลฯ อย่าตัดสลับไปมา เดี๋ยวบนเวที เดี๋ยวคนลงชื่อ ฯลฯ (ถ้าจะเดินหน้าก็ไปเลยอย่าย้อนกลับมาเหตุการณ์เก่า)

4. เพลงที่ใช้ประกอบในการทำ MV
เนื้อเพลงที่ใช้ประกอบ ควรให้ไปในแนวเดียวกับเรื่องและสอดคล้องไปด้วยกัน เช่น เพลงคู่ เริ่มแรกเสียงชายร้องก็ควรใช้ภาพเจ้าบ่าว เสียงหญิงร้องก็ควรใช้ภาพเจ้าสาว เมื่อชายหญิงร้องคู่ก็ต้องใช้ภาพบ่าวสาวคู่เจอกัน เที่ยวด้วยกัน แล้วโยงมาเข้าเหตุการณ์จริงคือ ช่วงเช้าหมั้น และช่วงเย็นแต่ง อาจจบที่คู่สวยๆในงานเย็นเน้นยำ้อีกครั้ง

สิ่งที่ควรคำนึงถึง

การทำเอ็มวีก็คือ การสรุปงานในส่วนสำคัญทั้งหมดให้ลงมาอยู่ในเวลาที่จำกัด กรณีไม่มีเวลามากพอที่จะดูเนื้องานทั้งหมด (ถ้าทำได้จะดีมั่กๆๆ)

- ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะเป็นคนหล่อและสวยที่สุดในโลก คุณต้องถ่ายทอดอารมณ์นี้ออกมาให้ได้ แม้บางครั้งจะตรงข้ามกับความจริง ก็ต้องพยายาม

- ระวังเพื่อนๆเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ที่หล่อกว่าสวยกว่า พยายามอย่าเน้น จำเป็นต้องใช้ให้ใช้ภาพกว้าง (เพราะจะไปข่มบ่าวสาว) หรือถ้าใกล้ต้องมีบ่าวสาวในเฟรมด้วย..

- คำพูดบ่าวสาว ควรจะมีอย่างยิ่งในเอ็มวี อาจมีพ่อแม่หรือบุคคลสำคัญอื่นด้วยก็ได้ (ไม่พูดแต่ควรมีภาพทุกคนบนเวที) และถ้าพูดต้องไม่มากและยาวไปกว่าบ่าวสาว และควรระวังคำพูดที่พูดบนเวที อย่าตัดคำที่มีความหมายดูถูกเจ้าสาว เช่น เจ้าบ่าวพูด"ฝ่ายหญิงบอกรักชายก่อน" (ต้องให้เกียรติเจ้าสาวมากๆแม้นเป็นความจริงก็ไม่ควรใช้)

- ระวังเรื่องนำ้หนักของภาพที่นำมาประกอบภาพนี้ จำเป็นที่จะต้องใส่ในเอ็มวีหรือไม่ มีเหตุการณ์อื่นที่ดีกว่า และสำคัญกว่านี้มีไหม เพื่อให้คนที่ไม่ได้มางานดูและเข้าใจ เช่น คนที่อยู่ต่างประเทศ , และคนแก่ที่ไม่สามารถเดินทางมางานได้ การใส่เทคนิคพิเศษ เช่น ตัวบิน , ดอลลี่ , เครน , ควรคำนึงถึงความสำคัญของเหตุการณ์นั้นก่อน แล้วจึงเพิ่มเทคนิคพิเศษเข้าไป (ทุกวินาทีมีค่าในเอ็มวี..คิดเยอะๆๆ)

- คำนึงถึงเนื้อเพลงที่ใช้ประกอบบางครั้งมีคำพูดบ่าวสาวในเอ็มวี เนื้อเพลงควรต้องไปด้วยกับอารมณ์ของบ่าวสาวที่พูดในขณะนั้น (เนื้อเพลงส่งบ่าวสาวพูดรับ)

- ระวังรายละเอียดแม้เล็กน้อยก็สำคัญเช่น ของประดับบนโต๊ะ, ตุ๊กตา , ซุ้มอาหาร , อาหารแต่ละชนิด , บรรยากาศของงาน , โต๊ะ , เก้าอี้ที่ใช้ ฯลฯ เพราะทุกส่ิงที่มีและเกิดขึ้นได้ เพราะบ่าวสาวเป็นคนสั่งให้จัด บางครั้งอาจจะดูไร้สาระสำหรับคนทำเอ็มวี แต่มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนทั้งสองที่ได้เริ่มทำด้วยกันเป็นสิ่งแรก

- กรณีทำเอ็มวีช่วงเช้าไว้ฉายดูเย็น และอาจทำเอ็มวีรวมอีกครั้ง (เช้าเย็น) เพื่อใส่ในวีดีโอ อาจต้องตัดส่วนไม่สำคัญในการตัดครั้งแรกออกบ้าง และปรับใหม่ในส่วนที่สำคัญมากกว่าเพิ่มเข้าไป อย่าตัดต่อเพียงเพิ่มเติมเข้าไปเท่านั้น เพราะจะทำให้เอ็มวีชุดนี้ยาวเกินจนน่าเบื่อ

- อย่าสับสนเอ็มวีงานแต่ง ที่พี่ๆคนเก่งนำมาโพส อาจไม่ใช่ตัวจริงที่ทำส่งลูกค้า เพียงแต่นำมาปรับและตัดใส่เอฟเฟค เพื่อโชว์เครื่องมือและความสามารถของคนทำงานให้เห็นเท่านั้น

งานแต่งแต่ละครั้ง มีขั้นตอนรายละเอียดมากมาย ทุกขั้นตอนคือสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ แม้แต่ขั้นตอนเดียว ถ่ายมาไม่ครบรับรองนอกจากจะไม่ได้เงินค่าจ้าง อาจโดนด่าประจานหมดอนาคตในวงการ ฉนั้น หน้าที่ของช่างภาพก็คือเก็บทุกรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นให้ครบ

จำไว้เสมอว่า วันแต่งงานคือวันที่ทุกคนมีความสุขมากที่สุดในโลก หันกล้องไปไหนก็มีแต่คนยิ้ม รวมถึงคนถ่ายทำอย่างพวกเราด้วย ก็ต้องมีความสุขเช่นกัน ฉะนั้นยิ้มไว้ห้ามเครียดค่ะ


credit: http://www.thaidfilm.com/

Saturday, November 12, 2011

บรรยากาศงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ & ลินา ภัคศรณ์ (Bee Peerapat & Lina Wedding @ Sukhothai Hotel)

เขิญชมภาพบรรยากาศที่แสนน่ารักในงานแต่งงานของ “บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง” และ “ลินา ภัคศรณ์ ลีนุตพงษ์” ที่จัดขึ้น ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสุโขทัย ในกรุงเทพมหานครโดยไม่หวั่นน้ำที่กำลังท่วมอยู่ในขณะนี้เลยค่ะ งานแต่งงานของคู่รักคู่นี้ นับว่าเป็นเป็นคู่ที่น่ารักสมกันจริงๆ อีกทั้งเป็นงานแต่งงานที่มีบทเพลงเพราะที่สุดงานหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ


งานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Wedding“บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง” หรือ บี-เครสเชนโด้ จูงมือแฟนสาว อดีตนักร้อง-นักแต่งเพลงคนเก่ง “ลินา ภัคศรณ์ ลีนุตพงษ์” เข้าพิธีวิวาห์แบบคริสต์อย่างชื่นมื่น เมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ปี 2011


โดยมีเพื่อนเจ้าบ่าว คือ เอก เครสเซนโด้ เอกพงศ์ เชิดธรรม, แม็ค เอเอฟ6 วีรดนย์ หวังเจริญพร, กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล, แอนดี้ เขมพิมุก, เพื่อนเจ้าสาว คือ เอ๋ กัญญารัตน์ พลาดิสัย, อุ๊ เจนนิส สินธวาชีวะ, จุ๊ นาขวัญ รายนานนท์, แพทที กัลยพัชร ภักดีผดุงแดน


มีเสียงแว่วมาว่าทางผู้ใหญ่เร่งให้ปั๊มทายาททันทีแต่บ่าว-สาวยังยื้อเพราะไม่อยากมีตอนนี้ เผยเตรียมนำเงินส่วนตัวจำนวน 111,111 บาทและเงินจากซองแต่งงานจำนวน 111,111 บาทช่วยผู้ประสบอุทกภัย พร้อมเล็งฮันนีมูนที่สวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศสหลังน้ำลด


นับเป็นอีกคู่รักที่ถือฤกษ์ดีในวันที่ 11 เดือน 11 ปี 2011 เข้าพิธีวิวาห์แบบคริสต์ไปอย่างชื่นมื่นสำหรับ ''บี'' พีระพัฒน์ เถรว่อง นักร้องหนุ่มเสียงดีจากวง ''เครสเชนโด้'' ที่ควงคู่แฟนสาวหน้าหวาน อดีตนักร้อง-นักแต่งเพลงคนเก่ง ''ลินา'' ภัคศรณ์ ลีนุตพงษ์ จัดงานแต่งงานขึ้น ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสุโขทัย หลังจากคบหาดูใจกันมานาน 7 ปี ท่ามกลางสักขีพยานนับร้อยคนที่มาร่วมงาน ร่วมถึงบุคคลในวงการบันเทิงที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น ''บอย โกสิยพงษ์'', ''นภ พรชำนิ'', ''ฟอร์ด'' สบชัย ไกรยูรเสน, ''ปุ๊'' อัญชลี จงคดีกิจ, ''พอลลีน (เต็ง) ล่ำซำ'', ''บุรินทร์ กรู๊ฟไรเดอร์ส'', ''ผิง'' พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์ ฯลฯ

งานแต่งงาน บี พีระพัฒน์ 11Nov11 (1/2)


งานแต่งงาน บี พีระพัฒน์ 11Nov11 (//2)


งานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Wedding
งานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Wedding
งานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Wedding
งานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Wedding
งานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Weddingงานแต่งงานของ บี พีระพัฒน์ และ ลินา ภัคศรณ์ - Bee Peerapat & Lina Wedding


images credit: http://www.facebook.com/DanNeramit4U

Friday, November 11, 2011

งานหมั้น "เอม-พินทองทา ชินวัตร" และ "พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" 11/11/11

งานหมั้น "เอม-หนุ่มพงศ์" เริ่มแล้ว เสิร์ฟขนมหวานมาการูน รอเซอร์ไพร์สจากพ่อ

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2011 ถือเป็นวันดีและเป็นฤกษ์หมั้นของ พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ กับ เอม พินทองทา ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร -คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร งานหมั้นจัดที่โรงแรม สวิส โฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ จากเดิมที่กำหนดจัดงานที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ย่านจรัญสนิทวงศ์ แต่ได้ถูกน้ำท่วมไปแล้วจึงได้ย้ายสถานที่จัดงานดังกล่าว

โดยฤกษ์หมั้นจะมีขึ้นในเวลา 11.00 น. ซึ่งพิธีหมั้นดังกล่าวจัดเป็นการภายในที่มีเพียงญาติผู้ใหญ่ที่สนิทและคนในครอบครัวของทั้งสองครอบครัวเท่านั้น


อนึ่ง ภายในงานก่อนพิธีหมั้น โอ๊ค พานทองแท้ พี่ชาย และ อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร น้องสาว ทำหน้าที่เป็นผู้กั้นประตูเงินประตูทอง


เริ่มจากขบวนขันหมาก มาถึงเวลา 9.39 น.

จากนั้นพิธีหมั้นจะเริ่มเวลา 10. 35 น.

11.18 น. ฤกษ์สวมแหวนหมั้น

11.40 น. พิธีรับไหว้ ยกน้ำชา ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

12.00 น. ทานขนมหวาน บัวลอยไข่หวาน

12.10 น. พิธีหลั่งน้ำสังข์ และรับประทานอาหาร

ประชาสัมพันธ์โรงแรม แจ้งว่า งานดังกล่าว เป็นงานส่วนตัว ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าว

พิธีหมั้น มีเครือญาติมาร่วมงานประมาณ 200 คน โดยไม่มีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ รัฐมนตรี มาร่วมงาน

เซอร์ไพร์สในงานคือ ยอดคุณพ่อ พล.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะมาอวยพร ให้ลูกสาว แต่ในรูปแบบใดไม่ยืนยัน รายงานข่าวแจ้งว่า พิธีหมั้นและงานแต่ง เป็นการจัดตามฤกษ์ ตามดวงเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการครอบชีวิตคู่ งานดังกล่าว เจ้าสาวใส่ชุดไทย สีงาช้าง เช่นเดียวกับเจ้าบ่าว ใส่สูทสีครีม โดยใช้ช่อดอกกุหลาบสีขาว ทั้งนี้ ขนมที่เสิร์ฟให้แขกในงานคือ มาการูน (macaroon) ขนมฝรั่งเศส ที่ประกบคู่สีสันสวยงาม รสชาติหวานหอม

ไฮไลน์ของงานก็คือ หนุ่มโอ๊ค พี่ชายจะพาเจ้าสาว เอม-พินทองทา มาส่งให้เจ้าบ่าว พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ทั้งนี้งานฉลองแต่งงานจะจัดขึ้นวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ณ โรงแรมพลาซ่า แอเธนี


ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยค่ะ






credit: http://www.matichon.co.th, http://news.sanook.com/

Thursday, November 10, 2011

วิธีสังเกต "รักแท้" (True Love)

วิธีสังเกต "รักแท้"

1. ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัส กับความสุขร่วมกับคน ๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงา ๆ และคิดถึง ไม่ใช่พอเขาหันหลังให้ ก็กระโดดโลดเต้นดีใจ

2. ต้องให้ความเคารพนับถือคน ๆนั้น ถ้าจะรักใครสักคน แล้วตั้งหน้าดูถูกไม่เคยให้ความเคารพ ในความเป็นเขา แล้วคนอื่น ๆ จะเคารพคน ๆ นั้น ของเราได้อย่างไรและเราจะภูมิใจหรือ กับการที่ได้รักใคร่กับคนที่ใคร ๆ เขาดูถูก

3. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ

4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน สัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคนเราย่อมผิดพาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน

5. ต้องเข้าถึงความต้องการอารมณ์ และความรู้สึกของคน ๆ นั้น อย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้าง ก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเอง ด้วยความเต็มใจ

6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคน ๆ นั้น ไม่ว่าจะต้องเสน่ห์ในความเป็นหญิงกำยำ หรือในความล้านจนขึ้นเงาวับบนหัวเขา มันก็มีส่วนในความรักเหมือนกัน

7. ต้องรู้สึกว่าเรา สามารถจะพูดคุยกับคน ๆ นั้นได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจ ขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้ว เราจะอับอายหรือไม่ก็กลัวว่าเขาได้ยิน แล้วจะเดินหายไปจากชีวิต

8. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคน ชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป

9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลาย ๆ ด้าน เป็นต้นว่าความคิดอารมณ์ และเวลาแต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง

10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่าร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ได้มีรักแท้กับคนๆนั้น

ลองนำไปสังเกตความรักของคุณดูก็ได้ ว่า...เป็นรักแท้แบบไหน


credit: http://campus.sanook.com
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...